นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ได้หารือกับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ถึงรายละเอียดของร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งต้องแก้ไขรายละเอียดต่าง ๆ จำนวนมาก และหลังจากนี้จะสรุปให้ได้ภายใน 2-3 สัปดาห์ เพื่อเสนอให้ครม.พิจารณาและเห็นชอบ โดยมีสาระสำคัญที่เปลี่ยนแปลง คือ อัตราภาษี 4 อัตรา ที่แบ่งแยกอย่างชัดเจน ประกอบด้วย ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม,ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย,ที่ดินเพื่อการพาณิชย์,ที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยจะกำหนดอัตราเพดานเรียกเก็บใหม่ให้เหมาะสมมากขึ้น ซึ่งระดับเพดานควรสูงกว่า 3-4 เท่า ของอัตราการจัดเก็บที่แท้จริง จากปัจจุบันสูงเกินไปที่ 8-9 เท่า
สำหรับหลักเกณฑ์การเก็บภาษีดังกล่าวนี้ จะไม่ส่งผลกระทบกับผู้มีรายได้น้อย โดยส่วนของที่ดิน เพื่อเกษตรกรรม จะคิดมูลค่าของผู้ที่มีที่ดิน 15-20 ไร่ ไม่ต้องเสียภาษี ส่วนบ้านเพื่อที่อยู่อาศัย จากเดิมที่พิจารณาว่าจะยกเว้นมูลค่า 2 ล้านบาทแรกไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งต้องปรับลดลง เพราะมีมูลค่ายกเว้นสูงเกินไป เนื่องจากมูลค่าบ้านในตัวเมืองและต่างจังหวัดไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง รวมทั้ง ยังพิจารณาการจัดเก็บอัตราภาษีให้น้อยลงด้วย เพื่อให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถเก็บภาษีในบ้านต่างจังหวัดได้ เบื้องต้นจะให้ผู้ที่มีบ้านในพื้นที่ 80-100 ตารางวา มีภาระเสียภาษีใกล้เคียงกับการเสียภาษีป้ายทะเบียนรถประจำปีในหนึ่งคัน ซึ่งมองว่าไม่เป็นภาระที่สูงเกินไป
ขณะที่ การเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่านั้น ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากในทางปฏิบัติ เนื่องจากมีผู้ที่พยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษี และเริ่มปลูกต้นไม้ เพื่ออ้างว่าไม่ได้เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า แต่เป็นเพื่อการเกษตรกรรม ซึ่งในส่วนนี้อยู่ระหว่างพิจารณาในทางปฏิบัติว่าจะทำอย่างไร
นายสมหมาย กล่าวว่า การเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี้จะให้ อปท. เป็นผู้เก็บภาษี โดยมีรัฐบาลช่วยดูแล ซึ่งภาษีดังกล่าวจะมาเก็บแทนภาษีโรงเรือนและภาษีที่ดินเดิม ที่ทาง อปท.เก็บได้ปีละ 50,000-60,000 ล้านบาทเท่านั้น ถือว่าต่ำเกินไป ทำให้รัฐบาลใช้เงินงบประมาณอุดหนุนท้องถิ่นปีละ 250,000 ล้านบาท ซึ่งการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวจะทำให้ลดภาระของรัฐบาล จะได้อุดหนุนน้อยลง
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การปรับปรุงภาษีทั้งระบบนั้น ที่ผ่านมาไม่เคยปรับปรุงมาก่อน โดยรวมสิ่งปลูกสร้างก็ไม่เคยเสียภาษี ซึ่งต้องเสียภาษีกันบ้าง ล่าสุดเรื่องนี้ยังอยู่ที่กระทรวงการคลังกำลังดำเนินการอยู่ จึงไม่อยากให้กังวลว่า จะเดือดร้อนใคร บางอย่างยังไม่เกิด แต่จะไปเกิดในรัฐบาลต่อไป เมื่อกฎหมายเรียบร้อยถึงจะออกมา จะผ่านกรรมาธิการหรือเปล่าก็ไม่รู้ก็ต้องไปแก้ไขกัน เพราะมีคณะกรรมาธิการถึง 3 คณะที่ออกกฎหมายแต่ละฉบับ
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 24 ก.พ. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.