“ยงยุทธ” ยํ้า รัฐเร่งแก้ความเหลื่อมลํ้า ช่วยประชาชนไร้ที่ทำกิน พร้อมรับข้อเสนอเครือข่าย ยาหอมเห็นการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลนี้แน่
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ตค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกิน เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกประจำปี 2557 พร้อมมอบโล่รางวัลผลงานดีเด่นในการสร้างความร่วมมือการจัดการที่ดินและที่อยู่อาศัย ประเภทบุคคล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ว่าราชการจังหวัด และรับมอบข้อเสนอการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) คณะผู้บริหารสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การ
มหาชน) และตัวแทนขบวนองค์กรชุมชนเข้าร่วม
โดยน.ส.นาตาชา เวเมอร์ ผู้แทนกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งเอเชียแปซิฟิก ยูเอ็น ร่วมอ่านสาสน์ ของนายบัน คี มูน โดยสรุปว่า เดือนนี้เป็นเดือนที่อยู่อาศัยสากล ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญกับการพัฒนาเมือง ลดบรรยากาศความเป็นมลพิษ สร้างสาธารณูปโภคที่ปลอดภัยและเท่าเทียม ทั้งนี้โครงการบ้านมั่นคงของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ถือเป็นโครงการที่สำคัญในเอเชียและเป็นโครงการตัวอย่างที่ให้โอกาสคนจนได้เข้ามาแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัย
จากนั้น นายยงยุทธ กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า ปีนี้องค์การสหประชาชาติได้กำหนดหัวข้อการรณรงค์เนื่องในวันที่อยู่อาศัยโลกว่า "เสียงจากสลัม" ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลและสังคมต้องรับฟังเสียงคนยากจน ในส่วนของประเทศไทยปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเป็นเสียงสะท้อนถึงความเหลื่อมลํ้าในสังคม โดยเฉพาะเขตที่ดินทำกินกับที่ดินเขตป่า ที่ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ แม้จะเป็นปัญหามานาน แต่น่ายินดีที่ปัจจุบันขบวนการชุมชนมีความเข้มแข็ง และได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการปัญหามากขึ้น และรัฐบาลมีนโยบายลดความเหลื่อมลํ้าของสังคม พร้อมสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการภาครัฐ มีการจัดสวัสดิการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส แก้ปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกร ปัญหาเขตที่ดินทับซ้อน พร้อมแก้ปัญหาบุกรุกที่ดินรัฐ โดยยึดแนวพระราชดำริที่ให้ประชาชนอยู่ร่วมกับป่า รวมถึงกระบวนการพิสูจน์สิทธิในเขตที่ดินของรัฐ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ จนสามารถคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งได้ เช่น กรณีที่ดินบริเวณอุทยานแห่งชาติบูโด-สุไหงปาดี อย่างไรก็ตาม จากข้อเสนอนโยบายการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินนี้ตนจะนำไปเสนอต่อนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าจากข้อเสนอนี้จะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นได้บ้าง ถึงแม้อาจจะไม่ได้อย่างที่คาดหวังร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตาม
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ วันที่ 31 ต.ค. 2557