นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยและนายเดชา นุตาลัยอุปนายกสมาคม ทำหนังสือร้องถึงนายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเพื่อพิจารณาทบทวนการจัดสรรงบประมาณโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้แก่กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยหนังสือระบุว่า "ตามที่สำนักงบประมาณยืนยันการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายตามโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตร สำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้กับกรมการข้าวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นการจัดสรรให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร และให้ทำการโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรโดยตรงโดยไม่ผ่านศูนย์ข้าวชุมชนนั้น
ปัจจุบันชาวนาเกือบร้อยละ 50 ในภาคกลางส่วนใหญ่ทำการเช่าพื้นที่ในการทำนา ข้อเท็จจริงพบว่า เงินในส่วนที่ภาครัฐจัดสรรลงไปเพื่อส่งเสริมช่วยเหลือนั้นเป็นการโอนตรงให้กับเกษตรกร ซึ่งหากเป็นการเช่าพื้นที่นาเงินต่างๆที่ภาครัฐส่งเสริมไปนั้นส่วนใหญ่จะไปตกอยู่ที่เจ้าของที่ดินหรือนายทุนมากกว่าช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาอย่างแท้จริงตามที่มีเจตนารมณ์ตั้งไว้
ทางสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจึงขอให้นายกรัฐมนตรีทราบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ที่เป็นนักพัฒนานั้น ต้องการลุกขึ้นมาสู้และปฏิวัติการทำนาสู่ความยั่งยืนตามแนวทางของนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่เห็นด้วยที่จะจัดสรรงบประมาณแล้วนำมาแจกให้แก่เกษตรกร ควรนำงบประมาณมาส่งเสริมพัฒนาจัดทำโครงการที่มีประสิทธิภาพประสิทธิผล ส่งผลให้เกษตรกรลดต้นทุนในการผลิตได้จริง สามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้น เกิดการแบ่งปันในสังคมและเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าอย่างยั่งยืนเกิดประโยชน์โดยรวมต่อชาวนาและประเทศชาติ
ดังนั้นสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทยจึงขอความกรุณาจากนายกรัฐมนตรีให้สำนักงบประมาณพิจารณาทบทวนการจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายตามโครงการสนับสนุนลดต้นทุนการผลิตด้านการเกษตรสำหรับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวให้แก่กรมการข้าว ที่ไม่ใช่เป็นการโอนเข้าบัญชีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตรโดยตรง"
ที่มา ไทยโพสต์ / 22 ตุลาคม 2565