20 มิถุนายน 2561 "กฤษฏา"จ่อนำโมเดลเลิกปลูกข้าว 2 ล้านไร่ ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ฤดูกาลหน้าเดือนพ.ค.เดินเครื่องแผนการผลิตใหม่ทั้งประเทศ ลั่นทวงคืนที่ส.ป.ก.รายใหญ่ตามคำสั่งม.44 ให้เกษตรกรทำกิน
นายกฤษฏา บุญราช รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์(กษ.) เปิดเผยว่ากำลังให้หน่วยงานรวบรวมข้อมูลแผนภาคเกษตรจากหลายประเทศเพื่อนำมาปรับเซ็ตระบบแผนการผลิตภาคเกษตรใหม่ทั้งประเทศ ยกระดับเข้าสู่เกษตร 4.0 เพื่อให้เกษตรกรเป็นอาชีพที่มั่นคง ตามแนวการปฎิรูปโครงสร้างเกษตรในยุทธศาสาตร์ชาติ 20 ปี
โดยระหว่างนี้ได้ให้ทูตเกษตรประจำในต่างประเทศ ส่งรายงานถึงแผนการเกษตร พื้นที่เป้าหมาย และรูปแบบความช่วยเหลือชดเชยเกษตรกรจากรัฐของประเทศต่าง ๆ จะนำมาปรับใช้กับการบริหารจัดการเกษตรกรรมของไทยโดยจะพิจารณาตามพ.ร.บ.สงเคราะห์เกษตรกร พ.ศ.2554 และพ.ร.บ.เศรษฐกิจการเกษตร พ.ศ.2522
แผนการเกษตรใหม่ มีการกำหนดประเภท ชนิด ปริมาณการปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ให้พอเหมาะกับความต้องการตลาด จัดระบบรับรองราคาต้นทุน (ขายต่ำกว่าต้นทุนรัฐชดเชย)ให้ระบุเป้าหมายการทำการเกษตรให้ชัดว่าเป็นเกษตรเพื่อบริโภคหรือการส่งออกหรือเข้าโรงงานอุตสาหกรรมหรือนำมาแปลงเป็นพลังงานทดแทน โดยมีมาตรการจูงใจเกษตรกร
การเข้าถึงแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำมีทุนการศึกษาให้บุตรเกษตรกรจนจบปริญญาเอกทางเกษตรแล้วต้องกลับมาทำงานที่กระทรวงเกษตรหรือมาทำงานที่เกี่ยวเนื่องกับอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งการให้กู้ในนามกลุ่มหรือสหกรณ์โดยมีเงื่อนไขต้องมารวมกันทำเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรปลอดภัยหรือเกษตรอินทรีย์ แต่เงื่อนไขสำคัญต้องปลูก และเลี้ยงสัตว์ ตามที่กษ.กำหนดในแผนจะปลูกกันตามใจคิดไม่ได้เพราะเราไม่ต้องการให้ล้นตลาด
ที่ผ่านมามาตรการจูงใจปรับเปลี่ยนทำเกษตรยังไม่มีระบบควบคุมที่ชัดเจน ประเด็นสำคัญอยู่ที่การควบคุมกำกับให้เกษตรกรต้องทำตามแผนการผลิตของรัฐโดยเคร่งครัด ผ่านการลงทะเบียนเกษตรกรต้องชัดเจนด้วย ที่ต้องลงทะเบียนว่าจะปลูกอะไร เท่าไหร่และต้องปรับไปปลูกพืชอื่นเมื่อรัฐแนะนำ ให้ลงทะเบียนกับเกษตรอำเภอและธกส. จะเชื่อมโยงระบบกัน ผ่านเลขบัตรประชาชน 13 หลักของกระทรวงมหาดไทย
โดยมีราคาที่พอใจไม่ต่ำกว่าต้นทุนมีกำไรไม่ควรต่ำกว่า 15 - 20 % ทั้งนี้น่าจะทันฤดูกาลหน้าตั้งใจไว้ว่าจะใช้โมเดลนี้ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนแทนปลูกข้าวหลังนา 2 ล้านไร่ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง ช่วงเดือนพ.ย.จะมีปัจจัยการผลิตให้ด้วยซี่งกำลังทำข้อมูลทั้งระบบจะสรุปเร็ว ๆ นี้
นายกฤษฏา กล่าวถึงการทวงคืนพื้นที่ส.ป.ก.รายใหญ่มิชอบด้วยกฎหมาย ว่าจะเดินหน้าตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ใช้มาตรา44 ประกาศคำสั่งที่ 36/2559 ตนจะเรียกข้อมูลจากส.ป.ก.เพื่อมาสะสางทั้งหมด นำมาจัดสรรให้เกษตรกรตามแนวทางคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ซี่งหลังจาก ส.ป.ก.สนธิกำลังกับทหาร ผู้ว่าราชการ หน่วยงานท้องถิ่น เข้ายึดคืนพื้นที่สวนปาล์มบริษัทสหไทยน้ำมันพืช จำกัด จ.ชุมพร เนื้อที่กว่า 6 พันไร่ ที่ยืดเยื้อมากว่า2 ปี จะนำไปจัดแปลงรวมให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนไว้กับจังหวัด
ที่มา : คมชัดลึก วันที่ 20 มิ.ย. 2561
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.