นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบกำหนดคุณสมบัติของเกษตรกรและหลักเกณฑ์ในการโอนเงินภายใต้มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย (มาตรการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเกษตรกรรายย่อย) ให้มีรายได้เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิต ดังนี้
1.คุณสมบัติของเกษตรกรตามมาตรการเพิ่มรายได้ ฯ เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยที่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินโอนตามมาตรการจะต้องเป็นผู้ที่มาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐระหว่างวันที่ 15 ก.ค.-15 ส.ค.59 ซึ่งต้องมีคุณสมบัติพื้นฐานและคุณสมบัติเฉพาะสำหรับมาตรการดังกล่าวดังนี้
คุณสมบัติพื้นฐาน ได้แก่ เป็นบุคคลสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ 15 ส.ค.59 และเป็นผู้ว่างงานหรือมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ในปี 58 โดยมีการตรวจสอบสถานะบุคคลและความถูกต้องของข้อมูลในเบื้องต้นจากกรมสรรพากรและกรมการปกครอง
สำหรับคุณสมบัติเฉพาะ ต้องเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนเกษตรกรหรือเป็นสมาชิกในครัวเรือนของผู้ที่อยู่ในทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตรหรือเป็นผู้มีรายชื่ออยู่ในทะเบียนผู้เลี้ยงสัตว์ หรือทะเบียนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของกรมประมง กระทรวงเกษตร ฯ ทั้งนี้ ในกรณีที่เกษตรกรที่ลงทะเบียนในโครงการนี้เป็นหัวหน้าครัวเรือนในทะเบียนเกษตรกรของกรมส่งเสริมการเกษตร จะต้องปรากฏเป็นที่ประจักษ์ว่าครัวเรือนนี้มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับเงินโอน
ทั้งนี้ ธ.ก.ส.จะเป็นผู้ดำเนินการเทียบข้อมูลจากข้อมูลผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
2.หลักเกณฑ์การโอนเงิน 1.หลักเกณฑ์ในการกำหนดจำนวนเงินที่โอนให้แก่เกษตรกรตามมาตรการเพิ่มรายได้ ฯ จะใช้เส้นความยากจน (Poverty Line) ที่คำนวณโดยสภาพัฒน์ เป็นเกณฑ์อ้างอิง ซึ่งในปี 57 เส้นความยากจนอยู่ระดับประมาณ 3 หมื่นบาทต่อปี ดังนั้นรัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี
สำหรับอัตราเงินโอน 1.เกษตรกรที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี โอนเงินให้ 3 พันบบาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่าน ธ.ก.ส.
2.เกษตรกรที่มีรายได้สูงหกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี โอนเงินให้จำนวน 1.5 พันบาทต่อคน เพียงครั้งเดียวผ่าน ธ.ก.ส.
3.วิธีการโอนเงิน กำหนดให้ ธ.ก.ส.โอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรโดยตรง ทั้งนี้กรณีไม่มีบัญชีเงินฝากกับ ธ.ก.ส. นั้น ธ.ก.ส.จะดำเนินการประสานกับธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยเพื่อโอนเงินให้เกษตรกรต่อไป สำหรับกรณีไม่มีบัญชีเงินฝากทั้ง 3 บัญชี ให้มาแจ้งชื่อบัญชี เลขบัญชีและธนาคารที่ประสงค์จะให้โอนเงินไปให้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขา
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 1 พ.ย. 2559
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.