1 เม.ย.58 นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ชาว ต.โคกช้าง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูแล้ง ปีนี้หลายพื้นที่ประสบกับปัญหาภัยแล้ง ทางรัฐบาล จึงให้เกษตรกรชาวนา งดการทำนา แล้วหันไปปลูกพืชทดแทนที่ใช้น้ำน้อยแทน แล้วกำลังหาแนวทางที่จะช่วยเหลือเกษตรกร โดยการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรในช่วงที่ไม่มีการทำนาและสนับสนุนให้เกษตรกรลดต้นทุนการผลิตในการทำน สำหรับการพักชำระหนี้เกษตรกรที่ไม่ได้ทำนาในช่วงภัยแล้ง ที่ทางรับบาลจะดำเนินการนี้ ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะว่าเกษตรกรไม่ได้ทำนาก็ไม่มีรายได้ เพื่อไปชำระหนี้ให้กับ ธกส.หรือ แหล่งเงินกู้ ร้านค้า สหกรณ์ต่างๆ ได้ แต่อยากให้ทางรัฐบาลกำหนดวันเวลาที่แน่ชัดว่าจะดำเนินการในช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไรให้เป็นรูปธรรม สำหรับหนี้สินเกษตรกรชาวนาที่ต้องเป็นหนี้จากการทำนา ไม่ว่าจะเป็นค่ารถเกี่ยว หว่าน ไถ่ ค่าน้ำมันที่ต้องสูบน้ำเข้านา ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง สำหรับตนเป็นหนี้ ธกส.นับล้านบาท
ในการลดต้นทุนการผลิตการบำรุงดิน โดยลดต้นทุนไม่ซื้อปุ๋ยเคมี ตนได้ใช้พืชผักและเศษอาหารที่เหลือจากการทำอาหาร นำมาทำเป็นปุ๋ยหมักชีวภาพแทนการใช้ปุ๋ยเคมีที่มีราคาสูง แล้วยังใช้หมักเพื่อไว้ใช้เป็นน้ำยาฆ่าแมลง และวัชพืชต่างๆ นอกจากนี้ ยังนำเมล็ดพันธุ์ข้าวมาแช่ในน้ำเพื่อให้ข้าวงอกก่อนที่จะหว่านข้าวในนา เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเรื่องการใช้น้ำในการทำนา ที่มีปริมาณน้อยในขณะนี้
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญในการทำนาของเกษตรกรชาวนา นอกจากปัญหาเรื่องภัยแล้งขาดน้ำที่จะทำนาแล้ว ชาวนากังวลที่สุดคือเรื่องราคาผลผลิตที่ตกต่ำ ทุกวันนี้ ชาวนาที่ทำนาขายข้าวได้แค่ไร่ละ ไม่เกิน 70 ถังต่อไร่และราคาข้าวขายได้แค่ไม่เกิน 6,000 บาทต่อหนึ่งตัน แล้วแต่ความชื้น ซึ่งราคาต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 5,000 กว่าบาทต่อตันแล้ว รายได้จึงไม่พอที่จะมาชำระหนี้ได้ จึงอยากได้รับความชัดเจนในการช่วยเหลือจากทางรัฐบาล
ที่มา : แนวหน้า วันที่ 1 พ.ค. 2558