เมื่อวันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค.ที่จะถึงนี้ กรมป่าไม้ จะรื้อฟื้นและขยายผลคดีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง (เขาแผงม้า) อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จำนวน 43 คดีขึ้นมาดำเนินคดีใหม่หลังจากหยุดชะงักมาตั้งแต่ปี 2554 ทั้งนี้ จากการประชุมร่วมกับกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานอัยการ พบว่า 43 คดีดังกล่าว มีความคืบหน้าช้ามาก โดยคดีทั้งหมดยังอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรวังน้ำเขียว ซึ่งอาจจะมีปัญหาติดขัดหรือไม่ได้รับความร่วมมือในพื้นที่ ประกอบกับที่ผ่านมาข้อมูลการตรวจวัดพื้นที่และพิกัดไม่ละเอียด เช่น บางแห่งที่ไปจับก็ไม่มีคนอยู่ และไม่มีใครมาแสดงตัว เป็นต้น นอกจากนี้ เจ้าของตัวจริงของบ้านพักและรีสอร์ท ทั้ง 43 คดีล้วนแต่เป็นผู้มีอิทธิพลแทบทั้งสิ้น ทำให้การทำงานเจ้าหน้าที่ ไม่สะดวก เพราะเข้าไปตรวจสอบไม่ได้เลย ตนจึงได้หารือกับพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้ชี้แจงถึงความจำเป็นของการดำเนินคดีกับ 43 รีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศ ดังนั้น กรมป่าไม้ จะโอนคดีทั้งหมดไปให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) ดำเนินการ ซึ่งขณะนี้ได้ทำหนังสือไปถึง สตช.แล้ว
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวต่อว่า สำหรับคดีการบุกรุกป่าสงวนฯ ป่าเขาภูหลวง(เขาแผงม้า) เคยมีการดำเนินคดีเมื่อปี 2554 จำนวน 43 คดี ส่วนใหญ่เป็นบ้านพักตากอากาศและรีสอร์ทหรูบุกรุกป่าสงวนฯ รวมพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 1,600 ไร่ เรียกว่าตลอดแนวป่าสงวนฯ เขาแผงม้าเกือบทั้งหมดจะถูกดำเนินการหมด ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างไม่มีการเลือกปฎิบัติ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน คือ ต้น พ.ค.นี้ กรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ จะเข้าตรวจยึดสวนยางพาราที่บุกรุกป่าสงวนฯ ทั่วประเทศ จำนวน 6 แสนไร่ เป็นของกรมป่าไม้ 4 แสนไร่ กรมอุทยานฯ 2 แสนไร่ ซึ่งล่าสุดรัฐบาลได้แต่งตั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เป็น ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายป่า โดยทำงานรวมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยจุดโฟกัสที่จะเข้าไปดำเนินการยึดคืนพื้นที่แรกคือป่าต้นน้ำป่าสัก ครอบคลุมพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ เลย พิษณุโลก จำนวนหลายหมื่นไร่
นายธีรภัทร กล่าวด้วยว่า อย่าไรก็ตาม การเข้าไปยึดคืนป่าสงวนแห่งชาติ ในหลายพื้นที่ยอมรับว่า ยังมีปัญหาการทับซ้อนพื้นที่กันระหว่างหน่วยงาน ทั้งป่าสงวนฯ กับ สปก. หรือ สปก.กับอุทยานฯ เป็นต้น กรมป่าไม้ จึงได้ประชุมร่วมกับกรมที่ดินและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ข้อสรุปว่า จากนี้เป็นต้นไป กรมที่ดินจะไม่ออกโฉนดในพื้นที่คาบเกี่ยวนับจากแนวเขตป่าสงวนฯ และอุทยานฯ ระยะทาง 200 เมตรในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ด้านนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กล่าวว่า กรมอุทยานฯ จะเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าครั้งใหญ่ โดยในวันที่ 20 เม.ย.จะส่งแผนปฎิบัติการทวงคืนผืนป่าและวันที่ 23 เม.ย.นี้ จะเรียกประชุมหัวหน้าอุทยานฯ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทั่วประเทศ เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีกับนายทุนที่บุกรุกอุทยานฯ ทำสวนยาง จำนวน 2 แสนไร่ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมากรมอุทยานฯ ได้จับกุมดำเนินคดีแล้ว โดยจะเร่งรัดให้มีการดำเนินคดีเร็วขึ้น บางส่วนจะต้องใช้มาตรา 22 เข้าทำการรื้อถอนทุบทิ้ง ทั้งนี้พื้นที่เป้าหมายส่วนใหญ่จะอยู่ในภาคใต้
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 20 เม.ย. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.