แต่ความเป็นจริง ณ ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ตามข้อปฏิบัติข้างต้นและมีข้อบกพร่องอย่างมากเพราะมีการซื้อขายที่ดิน ส.ป.ก. และครอบครองกันเอิกเกริกมากเนื่องจากที่ดินในส่วนของส.ป.ก. มีอยู่ราว 42 ล้านไร่
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2518 โดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ. การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 เพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2519 และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2532 โดยการนำที่ดินของรัฐและที่ดินที่จัดซื้อจากเอกชนนำมาจัดให้กับเกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองหรือมีที่ดินเล็กน้อยไม่เพียงพอแก่การครองชีพได้เข้าทำประโยชน์ เช่าหรือเช่าซื้อ...
การจัดที่ดินดังกล่าว คณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ได้ออกระเบียบหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขในการคัดเลือกเกษตรกรชัดเจน...โดยเน้นให้ เกษตรกรซึ่งไม่มีที่ดินทำกินเป็นของตนเองเป็นผู้ยากจน/ผู้จบการศึกษาทางเกษตรกรรม/ผู้เป็นบุตรของเกษตรกร และถือครองที่ดินได้ไม่เกิน 50 ไร่ 100 ไร่ หรือตามที่คณะกรรมการฯ เห็นสมควรสำหรับสถาบันเกษตรกร
ที่สำคัญที่ดิน ส.ป.ก. ห้ามไม่ให้ซื้อขายให้เช่าหรือเข้าทำประโยชน์อื่น ๆ นอกเหนือจากบุคคลผู้ที่ได้รับสิทธิหรือทายาทหากมีการดำเนินการนั้นจะมีความผิดให้สิ้นสิทธิ และให้ออกจากที่ดิน…นี่คือรายละเอียดสำคัญของการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. ที่เกษตรกรต้องพึงปฏิบัติอย่างเคร่งครัดควบคู่กับการทำงานที่จริงจังของเจ้าหน้าที่รัฐ
แต่ความเป็นจริง ณ ปัจจุบันนี้ไม่ใช่ตามข้อปฏิบัติข้างต้นและมีข้อบกพร่องอย่างมากเพราะมีการซื้อขายที่ดิน ส.ป.ก. และครอบครองกันเอิกเกริกมากเนื่องจากที่ดินในส่วนของส.ป.ก. มีอยู่ราว 42 ล้านไร่สามารถออกเอกสารสิทธิให้เกษตรกรกว่า 2 ล้านครัวเรือนไปแล้วราว 32 ล้านไร่เหลืออยู่ราว 10 ล้านไร่ที่ยังไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้
และที่สำคัญในพื้นที่ 10 ล้านไร่นี้เองที่มีพื้นที่สวยงามตามแนวเขาใหญ่วังน้ำเขียว และใกล้เคียงราว 1.8 ล้านไร่ที่ไม่สามารถทำการรังวัดได้เพราะคนที่ถือครองไม่ยอมมาแสดงตัวต่อเจ้าหน้าที่แม้จะใช้ทุกวิธีการทางกฎหมายแล้วก็ตามและยิ่งกว่านั้นมีข้อมูลที่น่าตกใจว่ามีที่ดินกว่า 4 ล้านไร่ที่ออกเอกสารสิทธิไปแล้วถูกขายและเปลี่ยนมือไปอย่างไม่ถูกต้อง… ทั้งหมดนี้กำลังจะถูกตรวจสอบอย่างจริงจัง
นายสรรเสริญ อัจจุตมานัส เลขาธิการส.ป.ก. เปิดเผยว่า ปัญหาการบุกรุกหรือถือครองที่ดินในพื้นที่ ส.ป.ก. หรือจุดอื่น ๆ นั้นเป็นเรื่องที่เรื้อรังมานานโดยล่าสุดเราพบว่าพื้นที่ ส.ป.ก. ทั่วประเทศมีนายทุนซึ่งเป็นทั้งผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นักการเมือง เป็นต้นถือครองรวมแล้วกว่า 4 ล้านไร่ และมีอีกราว 1.8 ล้านไร่ที่รังวัดไม่ได้
เราแยกรายละเอียดได้ว่าแปลงที่ครอบครองตั้งแต่ 50-99 ไร่จำนวน 4,753 แปลงเป็นพื้นที่รวม 3.3 แสนไร่,พื้นที่ขนาด 100 ไร่ขึ้นไปมี 4,941 แปลงเป็นพื้นที่รวม 1.5 ล้านไร่ รวมทั้งสิ้น 1.8 ล้านไร่โดยพื้นที่ภาคกลาง มีมากที่สุดจำนวน 3.6 พันแปลง เป็นพื้นที่รวม 6.8 แสนไร่ 2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวน 2.8 พันแปลงเป็นพื้นที่รวม 5.4 แสนไร่ 3. ภาคเหนือมีจำนวน 2.2 พันแปลงเป็นพื้นที่รวม 4.3 แสนไร่ และ 4. ภาคใต้มีจำนวน 912 แปลงเป็นพื้นที่รวม 1.4 แสนไร่
ปัญหาแต่ละพื้นที่ก็ไม่เหมือนกันมีความแตกต่างโดยใน จ.นครราชสีมา และบริเวณรอบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีที่ดินมากกว่า 3-5 แสนไร่ที่ถูกบุกรุกจากพื้นที่ ส.ป.ก. ทั้งหมด 3.6 ล้านไร่เช่นตามแนวถนนธนรัชต์ มีประมาณ 2 หมื่นไร่ ออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 ได้ 6-7 พันไร่ นอกนั้นรายใหญ่ ๆ เข้ารังวัดไม่ได้
โดย ส.ป.ก. พื้นที่แจ้งปัญหามา 3 ข้อว่า 1. เอกชนและชาวบ้านรอขายหรือขายประกาศแล้ว 2. มี สค.1 มาครอบพื้นที่ไว้และ 3. หวังให้รัฐบาลประกาศยกเลิก เขต ส.ป.ก. เพื่อไปออกโฉนดได้… ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดและยังพบว่ามีการเปลี่ยนมืออีก 2-3 หมื่นไร่แถว อ.ปากช่อง วังน้ำเขียว เขาแผงม้า หมูสีพร้อมกับมีสิ่งปลูกสร้างถาวรเป็นรีสอร์ท โรงแรม บ้านพัก ที่ตั้งอยู่ในวงรอบเขต ส.ป.ก. ซึ่งได้ชี้เป้าไปแล้วว่าเป็นใครบ้างที่ถูกดำเนินคดีบริษัทอะไรบ้าง โดยให้ ส.ป.ก.นครราชสีมาเข้าตรวจสอบร่วมกับทีมฝ่ายมั่นคงกองทัพภาคที่ 2 แล้ว
“ในส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรามีเอกชนรายใหญ่เพียงรายเดียวบุกรุกปลูกป่ายูคาลิปตัสใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกประมาณ 3 แสนไร่ผมเคยคุยแล้วถึงสองครั้งแต่ทางเอกชนที่ครอบครองพื้นที่อ้างว่าได้ให้ลูกไร่เช่าที่ดิน ดังนั้นหากส.ป.ก. จะเรียกพื้นที่ต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกไร่ซึ่งผมเห็นว่าผู้ครอบครองอยู่ทำผิดกฎหมายจะนำเงินหลวงไปจ่ายได้อย่างไรจึงเสนอให้ฝ่ายทหารเข้าดำเนินการเพิกถอนกับนายทุนรายนี้ในสัปดาห์หน้า” นายสรรเสริญกล่าว
เลขาธิการ ส.ป.ก. ให้ข้อมูลไว้ว่าในวันที่ 16 เม.ย. นี้จะประชุมหัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อวางแนวทางการเข้าตรวจสอบยึดคืนพื้นที่ส.ป.ก. จากนายทุนรายใหญ่รวมแล้วกว่า 4 ล้านไร่โดยรายชื่อส่งให้ทางทหารและ ส.ป.ก. ร่วมทีมตรวจสอบเพิกถอนที่ดิน
สำหรับบ้านพักพิธีกรดังเราได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบเอกสารถือครองเพื่อให้เกิดความชัดเจนแล้วทั้งนี้ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดเพราะพื้นที่ตรงนี้เหมือนกับรีสอร์ทโบนันซ่าที่มีคาบเกี่ยวสามหน่วยงานต้องคำนวณจากภาพถ่ายทางอากาศด้วยโดยมีพื้นที่กรมป่าไม้ กรมที่ดิน และ ส.ป.ก ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีประมาณ 7 หมื่นไร่ที่คาบเกี่ยวกัน
จากมติ ครม. ปี 2540 ที่ให้กันที่ป่าและที่ ส.ป.ก. ให้จบโดยอธิบดีกรมป่าไม้ขณะนั้นเสนอ ครม. ออกเอกสารสิทธิสทก. พิเศษมาอีกวันนี้จึงทำให้สภาพที่ดินแนวถนนธนรัชต์ มีทั้งพื้นที่ป่าไม้ถาวรของอุทยานแห่งชาติ พื้นที่ของกรมป่าไม้ พื้นที่ ส.ป.ก. และกรมที่ดินที่มี นส.3ก. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูที่มาของที่ดินเป็นอย่างไรในเบื้องต้นทราบว่าเป็น น.ส.3.ก. แต่ก็ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดในคราวเดียวกันทั้งหมดต่อไป
ด้าน นายชำนาญ กลิ่นจันทน์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศพบว่าบ้านพักของพิธีกรดังบริเวณเขาใหญ่อยู่ในเขต ส.ป.ก. แต่ไม่ทราบว่ามีการออกโฉนดมาก่อนหรือไม่เพราะที่แปลงนี้ตั้งอยู่ในเขต ส.ป.ก. ซึ่งตรวจสอบพบมีการระวางออก นส.3ก. ปี 2533 และมีการประกาศเขตปฏิรูปเดิมคือจำแนกออกจากป่าถาวรจำแนกมาให้เป็นพื้นที่ ส.ป.ก. ต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2532-2536
ทั้งนี้กรณีที่การถือครอง น.ส.3.ก. ที่อยู่ในเขต ส.ป.ก. ต้องไปตรวจสอบว่ามีการออกโดยชอบตามกฎหมายที่ดินหรือไม่ ซึ่งกรมที่ดินจะเป็นผู้บอกเพราะเป็นเจ้าของเอกสารสิทธิถ้าไม่ชอบกรมที่ดินจะเป็นผู้ออกเอกสารเพิกถอน ขณะนี้ทีมตรวจสอบขยับตรวจสอบไปเรื่อย ๆ โดย พ.อ.สมหมาย บุษบา หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมายกองทัพภาคที่ 2 เพราะมีผู้บุกรุกสร้างโรงแรม รีสอร์ท ไม่เป็นวัตถุประสงค์ของที่ ส.ป.ก. จำนวนมากใน อ.ปากช่อง
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 16 เม.ย. นี้ ทางส.ป.ก. จะทำหนังสือถึง นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ให้ออกคำสั่งพิเศษให้กำลังทหารและบังคับใช้กฎหมายตามอำนาจของ คสช. ในการเรียกนายทุนมาไต่สวนและให้ออกจากที่ดิน ส.ป.ก. โดยเร็ว
ตามกฎหมาย ส.ป.ก. กระบวนการฟ้องขับไล่ใช้เวลาเกือบ 10 ปี จนเป็นช่องโหว่ให้นายทุนไม่ยอมคืนที่ดินหากหมดยุคทหารก็ทำได้ยากโดยมาตรา 44 ให้ทหารมาช่วยกับทีม ส.ป.ก.ให้เชิญตัวนายทุนมาคุยและถ้าไม่ออกจากพื้นที่ก็ถือว่ามีความผิด ที่ผ่านมาใช้ความสัมพันธ์หรือเกรงกลัวอิทธิพลจึงไม่อยากจับรายใหญ่แม้รู้มีนักการเมืองมีที่ ส.ป.ก. เยอะก็ตามที
นับจากวันนี้เป็นต้นไปคงต้องติดตามกันว่าทางภาครัฐไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใดทั้ง ส.ป.ก. กรมป่าไม้ กรมอุทยาน สัตว์ป่า และพันธุ์พืช หรือ กรมที่ดิน จะเข้ามาแก้ปัญหาการบุกรุกถือครองที่ดินอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างไร... เพราะเชื่อเลยหากมีการนำมาตรา 44 มาบังคับใช้คงจะทวงคืนผืนป่าให้เหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานจริง ๆ ได้แน่นอน
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 16 เม.ย. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.