"ป้าสำเนียง พุ่มเกตุ" คุณป้านักสู้แห่งโป่งน้ำร้อน ได้กลับเข้าทำกินในที่ดินเดิมของตัวเองอีกครั้ง หลังต่อสู้กับคู่กรณีในชั้นศาลมาเกือบ 30 ปี จนสามีตรอมใจตาย สุดท้ายศาลฎีกาพิพากษาให้ชนะคดี แต่ยังต้องสู้ต่อ เพราะที่ผืนเดียวแยกเป็น 2 โฉนด...
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังศาลฎีกาพิพากษาให้ นางสำเนียง หรือ ป้าสำเนียง พุ่มเกตุ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ชนะคดีที่มีคนมาขอดูโฉนดแล้วนำไปโอนเป็นชื่อของตนเอง จนกลายเป็นคดีฟ้องร้อง และทำให้ครอบครัวต้องแตกสลาย เมื่อนายทวี พุ่มเกตุ สามี หลังถูกฟ้องร้องห้ามเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเอง ทำให้คุณลุงทวีคิดมากจนตรอมใจตายเมื่อปี 2544
ป้าสังเวียน มาติดต่อที่ดินจังหวัดจันทบุรี สาขาอำเภอมะขาม เพื่อออกใบแทนโฉนดใบแรกที่หายไป
หลังสิ้นคู่ชีวิตไปแล้ว ป้าสำเนียงก็พยายามดิ้นรนต่อสู้มาโดยตลอด ทำทุกวิถีทางจนกระทั่งศาลฎีกาพิพากษาให้ป้าสำเนียงชนะคดีในที่สุด ทำให้ได้กลับเข้าไปทำกินในที่ดินของตนเองอีกครั้งหนึ่ง หลังจากมีข้อพิพาท และต้องต่อสู้กับคู่กรณีมาตั้งแต่ปี 2531 แม้ว่าศาลจะตัดสินให้ชนะคดีครั้งแรกเมื่อปี 2554 แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปในที่ดินได้ เพราะคู่ความได้ต่อสู้จนถึงศาลสูง
จนถึงเดืนกุมภาพันธ์ 2558 ที่ศาลฎีกามีคำตัดสินให้ชนะคดี ทำให้คดีถึงที่สุด กินเวลานานถึง 27 ปี ซึ่งระหว่างนั้นป้าสังเวียนได้ต่อสู้อย่างไม่ยอมแพ้ ทั้งปากกัดตีนถีบ ทำงานหาเลี้ยงลูกเพียงลำพัง และสู้คดีไปด้วย โดยไม่มีที่ดินทำกิน
ป้าสังเวียนพานักข่าวไปดูที่ดินของตัวเอง
ถึงวันนี้ แม้ว่าจะไม่มีคุณลุงทวีคู่ชีวิตอยู่ด้วยกันก็ตาม แต่ป้าสำเนียงก็มีลูกๆ ที่กลับมาอยู่กับแม่ ต่างช่วยกันดูแลบำรุงต้นไม้และผลไม้ต่างๆ จนกลับมามีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ต่างออกลูกดกติดเต็มต้น ซึ่งป้าสำเนียง บอกว่า ต่อไปนี้คงไม่ต้องลำบากอีกแล้ว เพราะได้ที่ดินเดิมกลับมาทำกิน
อย่างไรก็ตาม ป้าสำเนียงก็ยังต้องฟ้องร้องเอาที่ดินอีก 1 แปลงกลับคืนมา เนื่องจากทนายฟ้องร้องโฉนดไปแค่ใบเดียว แต่ที่ดินผืนนี้มีหน้าโฉนดอยู่ 2 ใบ ซึ่งทั้ง 2 ใบอยู่ในที่ผืนเดียวกัน และถูกนำไปโอนเป็นชื่อของคนอื่นทั้ง 2 ใบ จากการตรวจสอบจากคำพิพากษาของศาลฎีกา หน้าโฉนดดังกล่าวเป็นหน้าโฉนดหลังแดง ห้ามทำการโอนภายใน 10 ปี แต่ทางผู้ที่นำโฉนดไปทำการโอน ได้ใช้ข้อกฎหมายฟ้องศาลในแง่ของการครอบครองปรปักษ์ และศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานที่ดินโอนที่โฉนดแปลงดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง แต่ยังดีที่ศาลฎีกาวินิจฉัยกลับว่า ขณะที่มีการฟ้องร้องพิพาทกันอยู่ ไม่สามารถนำมานับอายุการครอบครองปรปักษ์ได้ ป้าสำเนียงจึงได้ที่ดินแปลงดังกล่าวคืน แต่ป้าสำเนียงก็ยังต่อสู้เพื่อนำที่ดินอีกแปลงกลับคืนมา
ด้านนายสมชาย ประกอบชาติ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดจันทบุรี สาขาอำเภอมะขาม จ.จันทบุรี กล่าวว่า ทางเจ้าพนักงานที่ดินทำตามหลักฐานที่ปรากฏ และทำตามคำสั่งศาล สำหรับที่ดินแปลงของป้าสำเนียงแปลงแรก ศาลสั่งให้ตกเป็นของป้าสำเนียง แต่เนื่องจากโฉนดหาย จึงจะทำใบแทนให้ป้าสำเนียงต่อไป ส่วนโฉนดอีกหนึ่งแปลงที่ยังมีปัญหากับคู่กรณี ป้าสำเนียงต้องไปใช้สิทธิ์ในชั้นศาลอีกครั้ง เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล เพื่อที่จะได้กรรมสิทธิ์กลับคืนมา
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 3 เม.ย. 2558