เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่บริเวณสถานที่ก่อสร้างอุโมงค์ขุดเปิดท่าพระ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์กรณีการขึ้นภาษีบ้านและที่ดิน ว่า ที่ผ่านมาทุกคนอยากได้นั่นได้นี่แต่รัฐไม่สามารถเก็บภาษีได้ ก็อยากถามว่าจะเอาเงินที่ไหนมาทำ ตนอยากให้เข้าใจกันบ้างอะไร คือ ผลประโยชน์ของประเทศ อะไร คือ เรื่องส่วนตัวตนเข้าใจดีว่า แต่ละคนมีความเดือดร้อนไม่เท่ากันก็พยายามจะลดและปรับ แต่ปัจจุบันไม่คิดกันเลย และไม่สน เรื่องของภาษีที่ดินและภาษีบ้าน แล้วจะให้ไปขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (vat) หรืออย่างไร ความจริงจะต้องขึ้นตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้วจาก 7 เปอร์เซ็นต์เป็น 10 เปอร์เซ็นต์ แต่เราก็ได้มีการชะลอไว้ "อันนั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้ แล้วหนี้เก่าที่รัฐบาลก่อน ๆ ทำไว้ก็มีเยอะมาก แล้วประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร "
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วรัฐบาลจะเก็บภาษีบ้านและที่ดินใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้ยังไม่มีข้อสรุป วันนี้อยู่ในขั้นตอนของกระบวนการที่มีการเสนอเข้าไปยงสภานิติบัญญัตแห่งชาติ (สนช.) ยังต้องมีการพิจารณาอีก 3 วาระแล้วถึงจะมีประกาศว่า จะประกาศใช้ในช่วงเวลาอีกกี่ปี ไม่ใช่จะเก็บวันนี้พรุ่งนี้ อาจจะใช้เวลาอีกหลายเดือนหรืออีก 1-2 ปีข้างหน้าก็ได้ และที่ต้องใช้เวลาเพราะจะต้องไปจัดทำในเรื่องของราคา ผังเมือง และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย เรื่องนี้ตนเข้าใจดีเพราะตนก็เป็นคนที่เสียภาษี ข้าราชการทุกก็เสียภาษี
เมื่อถามว่า นโยบายการเก็บภาษีบ้านและที่ดินจะทำให้คนที่ต้องการซื้อบ้านทำได้ยากขึ้นหรือไม่โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า "เรื่องนี้ผมไม่ได้คิดเหมือนกัน แต่ก็แหมอยากได้บ้านแต่ก็ไม่อยากเสียกัน เราสอนให้คนเป็นอย่างนี้หรือ เราจะต้องสอนให้คนมีทั้งรับและให้ ซึ่งรัฐบาลก็จะหาทางออกให้ว่า ควรจะทำอย่างไร ไปไล่ไอ้คนที่ปลูกบ้านราคาแพง ๆ ให้มันลดราคาลงไม่ใช่มาบอกว่า ไม่เสียภาษี เพื่อที่จะไปซื้อบ้านได้ ถือเป็นวิธีการคิดที่ผิดต้องกลับไปคิดใหม่ "
เมื่อถามว่ามาตรการดังกล่าวเป็นเพราะรัฐบาลเก็บภาษีไม่เข้าเป้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวย้อนถามว่า ไม่เข้าเป้าเพราะอะไร เพราะที่ผ่านมามันโกงภาษีและหลบเลี่ยงภาษีกันเรื่องแบบนี้ก็ต้องไปบอกคนที่ทำอย่ามาตั้งคำถามที่ตนไม่สามารถไปจับใครได้เพราะตนไม่ได้เป็นคนเก็บภาษีก็ขอให้เขาเสียภาษีให้ถูกต้อง
เมื่อถามว่ารัฐบาลมีแผนการสำรองในการหารายได้เข้ารัฐทางอื่นหรือไม่เช่นการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม นายกฯ กล่าวว่า การที่ต้องเก็บวันนี้ เพราะต้องการมีรายได้มาชดเชยในสิ่งที่เก็บไม่ได้โดยเฉพาะการชดเชยรายได้ที่มีน้อยมาก จะเก็บได้หรือไม่ได้ไม่ต้องพูดถึงเพราะมีการหลีกเลี่ยงภาษีบางอย่างอยู่ก็ช่างมันเดี๋ยวไปตามเก็บกันภายหลัง ซึ่งก็จะมีการกล่าวหาว่าเป็นการไปไล่ล่าประเด็นวันนี้รายได้ไม่เพียงพอรัฐบาลจึงต้องตั้งงบประมาณแบบขาดดุล 2 แสนกว่าล้าน เพื่อนำไปโปะให้กับองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ่ายเงินกู้ จ่ายค่าคลังเก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าวเดือนละ 2 พันกว่าล้านบาท นอกจากนี้ก็ยังต้องไปจ่ายหนี้ค่ารถไฟและรถเมล์ฟรี ยังมีรายจ่ายประจำแล้วจะเอาเงินไปจากไหนถ้าไม่เก็บภาษีและรัฐบาลจะทำต่อเมื่อมีความพร้อม ที่ผ่านมารัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่สามารถทำได้เพราะกลัวจะเสียคะแนนเสีย
ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ เสียภาษีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ก็เสียหลายหมื่นบาทมีรายได้เดือนละ 75,000 บาทจากเงินเดือนนายกฯ เบี้ยประชุมก็ไม่รับเงินแต่ละวันก็ไม่ค่อยได้ใช้เงิน ตอนนี้ก็รอเบี้ยผู้สูงอายุอยู่
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 9 มี.ค. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.