วันนี้ (17 ก.พ 58) เวลา 13.30 น. ณ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานและสนับสนุนงานโครงการหลวง (กปส.) ว่า โครงการหลวงเป็นโครงการส่วนหนึ่งที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มไว้ เพราะเมื่อสมัยก่อนพื้นที่นี้มีการปลูกฝิ่นและพืชเสพติดจำนวนมากและจากปี 2512 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 45 ปี พื้นที่แห่งนี้มีความเจริญขึ้นหลายอย่าง โดยมี หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ประธานมูลนิธิโครงการหลวง เป็นผู้ดูแลโครงการหลวงมาโดยตลอด ซึ่งสามารถสร้างรายได้ สร้างอาชีพให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากมีเนื้อที่กว่า 2 หมื่นไร่ เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยภูเขา ปลูกผัก ผลไม้ และ สตรอเบอรี่ที่มีชื่อเสียง โดยเฉพาะสตรอเบอรี่พันธุ์ 80 พรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ โครงการหลวงจะพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยนำการวิจัยมาจากต่างประเทศและเลือกพันธุ์ที่เหมาะสมกับประเทศ โดยสรุปแล้วโครงการหลวงเป็นโครงการที่มีประโยชน์มาก เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานมายาวนาน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลจะดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายที่ได้แถลงไว้คือ การส่งเสริมโครงการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและราชวงศ์ทุกพระองค์ที่ได้ทำไว้ ซึ่งวันนี้รัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณในการดำเนินโครงการหลวงอ่างขางประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ไม่มากเมื่อเทียบกับประโยชน์ที่ประชาชนได้รับทั้งด้านสาธารณูปโภค น้ำ และการพัฒนาที่ดิน โดยมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการต่อยอดสร้างศูนย์การเรียนรู้ชุมชนและต่อเนื่องไปถึงการทำเกษตรโซนนิ่ง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัจจุบันเกษตรกรในประเทศมีประมาณ 30 กว่าล้านคน ปลูกข้าว จำนวน 10 กว่าล้านไร่ แต่สามารถส่งน้ำได้แค่ 20 กว่าล้าน ดังนั้น รัฐบาลต้องวางแผนบริหารจัดการน้ำให้ต่อเนื่อง อีกทั้ง ในปี 2558 - 2559 จะสามารถทำได้ระดับหนึ่งจาก 27 ล้านเพิ่มเป็น 30 ล้านถึง 32 ล้าน ส่วนที่เหลือรัฐบาลต่อไปก็ต้องทำต่ออีกอย่างยั่งยืน แต่การดำเนินการต้องใช้เวลา และต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชนด้วย
สำหรับเรื่องของพืชผลด้านการเกษตร ต้องดูที่ Demand และ Supply ในประเทศและต่างประเทศ ไม่ใช่ปลูกกันจนผลผลิตล้นตลาดแล้วขายไม่ได้ราคา ต้องมีการควบคุมปริมาณผลิตผลด้านการเกษตร ซึ่งต้องหาอาชีพใหม่ให้เกษตรกรแบบสมัครใจทำ แต่ตรงนี้เป็นเรื่องที่ยาก พร้อมกันนี้ ต้องดูเรื่องการแปรรูปผลผลิตเพื่อให้ราคาสูงขึ้นและต้องดูผู้บริโภคด้วย วันนี้จากการตรวจสอบพบว่า อาหารมีราคาสูง โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงสำเร็จ แต่วัตถุดิบยังราคาถูกเหมือนเดิม รัฐบาลจึงมีความเป็นห่วงผู้มีรายได้น้อย ต้องแก้ปัญหาเรื่องความเลื่อมล้ำ การกระจายรายได้ ต้องจัดระบบใหม่ทั้งหมด คือความยากง่ายของรัฐบาลที่ทำงานอยู่ในเวลานี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความจริงแล้วตนเองเดินทางมา จ.เชียงใหม่บ่อย สมัยตามเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ โดยครั้งสุดท้ายมาเมื่อปี 2547 มานอนบนเขา หนาวเย็น ทุกอย่างยังงดงามเหมือนเดิม วันนี้ฝากไว้ทุกแห่งที่พระองค์ท่านไม่ได้เสด็จแล้ว เราก็ต้องนำสิ่งพระองค์ทรงคิดไว้ออกไปดูแลประชาชนให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ประชาชนนึกว่าที่เรามีวันนี้อยู่ได้เพราะพระองค์ทรงมีส่วนที่ช่วยให้คนไทยพ้นจากความยากจนและวันนี้ทุกรัฐบาลก็ต้องนำมาสืบสานให้ได้
นอกจากนี้เรื่องการค้าขาย การแข่งขัน หากจะสู้ต่างประเทศได้ต้องมีการพัฒนาผลผลิตใหม่ๆ ออกมา ซึ่งวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังทำการวิจัยพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง
สำหรับปัญหาชายแดนในวันนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่มี ความสัมพันธ์ไทยกับประเทศเพื่อนบ้านดีมาก เขาชื่นชมประเทศไทยที่สงบ เรียบร้อยดี รักษาคำพูด พร้อมกล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยมีศักยภาพที่ค่อนข้างสูง จึงไม่ควรทะเลาะกันเอง รัฐบาลต้องมองตรงนี้ นี่คือยุทธศาสตร์ชาติที่รัฐบาลคิดทุกวัน มีทั้งยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์ท้องถิ่น เพื่อให้ประเทศชาติมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ซึ่งคือวิสัยทัศน์ที่จะต้องทำให้ได้ภายใน 5 ปี เพราะปีหน้าจะเริ่มเออีซีแล้ว ซึ่งต้องแก้ปัญหาเรื่องแรงงานและดำเนินการทุกอย่าง
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า การแก้ปัญหาราคายางที่ยังแก้กันไม่จบ เพราะการซื้อยางอาจยังไม่ถึงชาวสวนยาง ที่มีทั้งยางถ้วย ยางแผ่น รัฐจะซื้อมากก็ไม่ได้เพราะจะทำให้ราคาก็ตก เก็บไว้รัฐบาลก็มีปัญหา จึงให้สหกรณ์ซื้อ โดยซื้อ 10 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปิดการกีดยาง ขณะเดียวกันยางที่เก็บไว้ในสต๊อกยังมีอีกสองแสนตัน เป็นของรัฐบาลที่ผ่านมา และวันนี้รับซื้อมาใหม่อีกสองแสนตัน ราคาข้างนอกอยูที่ประมาณ 60 บาท จึงต้องเร่งแปรรูปยางนำมาใช้ให้มากที่สุด คิดว่าในอนาคตจะดีขึ้น
..................................
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
นราวุธ / รายงาน
ที่มา : สำนักโฆษกรัฐบาล วันที่ 17 ก.พ. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.