องค์การเพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนระหว่างประเทศชี้ คนรวยเพียงร้อยละ 1 จากประชากรทั้งหมดของโลก กำลังจะครอบครองทรัพย์สินของโลกเกินครึ่งหนึ่งในปี 2016 ขณะที่ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยกำลังขยายตัวมากยิ่งขึ้น
"อ็อกซ์แฟม" องค์การเพื่อการกุศลและแก้ไขปัญหาความยากจนทั่วโลก ออกรายงานการผลวิจัยฉบับใหม่ระบุว่า "คนรวย" ในระดับมหาเศรษฐีซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1 จากจำนวนประชากรทั้งหมดของโลก กำลังจะครอบครองทรัพย์สินของโลกร้อยละ 50 ในปี 2016 และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 54 ภายในปี 2020 โดยเป็นแนวโน้มต่อเนื่องที่คนรวยกินส่วนแบ่งทรัพย์สินของโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากร้อยละ 44 ในปี 2009 เป็นร้อยละ 48 ในเมื่อปีที่ผ่านมา
ในปี 2014 ทรัพย์สินของคนรวย 85 คนบนโลกใบนี้ มีมูลค่าประมาณ 4 ล้าน 8 แสนล้านบาท ซึ่งเท่ากับทรัพย์สินของคนยากจน 3,500 ล้านคนทั่วโลกรวมกัน โดยคนยากจนเหล่านี้ครอบครองทรัพย์สินเพียงร้อยละ 5.5 จากทรัพย์สินทั้งหมดของโลกเฉลี่ยที่ 3,851 ดอลลาร์หรือประมาณ 115,000 บาทต่อคนเท่านั้น
นางวินนี บียันยิมา ผู้อำนวยการบริหารของอ็อกซ์แฟมกล่าวว่า เราจะยอมทนอยู่ในโลกที่มีคนรวยเพียงร้อยละ 1 ที่ครอบครองทรัพย์สินมากกว่าคนอีกร้อยละ 99 อย่างนั้นหรือ? ขณะที่ ช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวยกำลังขยายตัวกว้างขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่า ทั่วโลกจะชูประเด็นการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมลํ้าก็ตาม โดยเธอจะใช้ชื่อเสียงจากการทำงานด้านการกุศลของเธอ เข้าร่วมการประชุมเวิร์ลอีโคโนมิกฟอรัมที่เมืองดาโวส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในสัปดาห์นี้ เรียกร้องให้นักธุรกิจและนักการเมืองชั้นนำของโลกที่เดินทางมาร่วมประชุม หันมาแก้ไขปัญหาความเหลื่อมลํ้าระหว่างคนจนและคนรวยมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ อ็อกซ์แฟมยังเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกรับเอาหลัก 7 ประการของอ็อกซ์แฟมไปใช้เพื่อลดช่องว่างระหว่างคนจนและคนรวย เช่น ออกมาตรการที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีของบริษัทต่างๆ การพัฒนาคุณภาพชีวิตจากการเพิ่มรายได้ เป็นต้น
งานวิจัยฉบับนี้ได้รับการเปิดเผยหลังนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แถลงนโยบายประจำปีเมื่อวันอังคารที่แล้ว โดยเตรียมขึ้นภาษีคนรวยเพื่อช่วยเหลือชนชั้นกลาง แต่นโยบายดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาจากสภาคองเกรส ซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากอยู่ ขณะที่การลดความเหลื่อมลํ้าระหว่างคนรวยและคนจน จะกลายเป็นนโยบายสำคัญสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของพรรคเดโมแครตในปี 2016 ด้วย
ที่มา : Voice TV วันที่ 19 ม.ค. 2558