กระทรวง ทรัพย์ฯดัน 3 กรม ผนึกกำลังเปิดยุทธการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับป่าไม้ ดีเดย์ 14 ม.ค.นี้ โฟกัสนายทุนตัวจริงบุกรุกที่ดินรัฐ ประสานดีเอสไอ-ปปง.ลุยสางคดีป่าไม้ค้างในรอบ 7 ปี กว่า 4 หมื่นคดี เล็งรื้อทิ้งรีสอร์ต ยึดคืนนากุ้ง สวนยาง-ปาล์ม กรมที่ดินสกัด ส.ค.1 เตรียมแปลงเป็นโฉนด เผยยอดค้าง 4.7 แสนฉบับ
แหล่งข่าวจากกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า วันที่ 14 ม.ค.นี้ กรมป่าไม้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะปล่อยกำลังพลทั้ง 3 กรมออกปฏิบัติภารกิจหน้าที่ในการปกป้องรักษาทรัพยากรป่าไม้ของชาติ ทั้งป่าบกและป่าชายเลนทั่วประเทศ ภายใต้แผนปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับป่าไม้ โดยกรมได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ 1 ชุด และชุดปฏิบัติการพิเศษหรือชุดพยัคฆ์ไพร 7 ชุด ติดตามตรวจสอบคดีสำคัญและผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศที่เกินความสามารถของเจ้า หน้าที่ในพื้นที่
ขณะเดียวกัน ประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าตรวจสอบคดีเชิงลึกในคดีสำคัญ เพื่อให้เข้าถึงนายทุนตัวจริง โดยจะเร่งดำเนินคดีป่าไม้ที่มีอยู่กว่า 4 หมื่นคดี ในรอบ 7 ปีที่ผ่านมาให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว และ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โฟกัสรุกป่าทำรีสอร์ต-นากุ้ง
ล่า สุดจากการประชุมเตรียมเปิดยุทธการตามแผนปฏิบัติฯ โดยมี พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน เมื่อ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้มอบนโยบายในการดำเนินการตามแผน 3 ข้อ 1.ให้กระทบชาวบ้านน้อยที่สุด หากเกิดผลกระทบให้หยุดดำเนินการแล้วทบทวนการปฏิบัติ 2.ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปฏิบัติตามแผน 3.การรื้อถอนโครงการขนาดใหญ่ให้ประเมินค่าใช้จ่ายโดยวิศวกร จากนั้นแจ้งให้ผู้กระทำผิดชดใช้ ขณะที่แผนปฏิบัติการจะป้องกันปราบปรามการบุกรุกป่าเป็นรายป่าสงวนแห่งชาติ โดยใช้อากาศยานบินตรวจสอบและลาดตระเวนทางอากาศควบคู่กับปฏิบัติการในภาคพื้น ดิน พื้นที่เป้าหมายในการป้องกันปราบปราม ประกอบด้วย พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ รวมทั้งพื้นที่ป่าชายเลน โดยเน้นดำเนินการกับเอกชนรายใหญ่ที่บุกรุกถือครองที่ดินของรัฐ โดยเฉพาะการปลูกสร้างรีสอร์ต โรงแรม บุกรุกทำนากุ้ง ปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน อาทิ จ.ภูเก็ต จันทบุรี ตรัง กระบี่ พังงา สงขลา สตูล นครศรีธรรมราช นครพนม เลย ตาก อุดรธานี ราชบุรี เชียงราย หนองบัวลำภู อุทัยธานี แม่ฮ่องสอน
ตั้งพยัคฆ์ไพร-พญาเสือ-ฉลามขาว
นาย ธีรภัทร ประยูรสิทธิ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมมีหน่วยพยัคฆ์ไพร ขึ้นกับอธิบดีโดยตรง เป็นหน่วยงานหลักในการปฏิบัติตามแผน มีนายชีวะภาพ ชีวะธรรมนักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ ช่วยราชการกรมป่าไม้ เป็นหัวหน้าทีม
นาย ธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ในส่วนของกรมซึ่งรับผิดชอบดูแลอุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทั่วประเทศ มีเนื้อที่กว่า 73 ล้านไร่ กรมได้จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษลาดตระเวนทางยุทธวิธีในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ หรือ "หน่วยพญาเสือ" เข้าสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านป้องกันและปราบปรามของเจ้าหน้าที่หลัก เนื่องจากกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ป่ามีอาวุธที่ทันสมัย
นาย ชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า พื้นที่ป่าชายเลนตามมติ ครม.ปี 2543 จำนวน 2.9 ล้านไร่ ปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าเพียง 1.52 ล้านไร่ กรมได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจ "ฉลามขาว" ขึ้น แบ่งเป็น 3 ชุด เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลน พบว่าส่วนใหญ่ถูกบุกรุกเป็นฟาร์มเลี้ยงกุ้ง โดยเป็นพื้นที่ทั้งมีเอกสารสิทธิและไม่มีเอกสารสิทธิ
สกรีนเข้มออกโฉนดจาก ส.ค.1
นาย สุจิต จงประเสริฐ รองอธิบดีกรมที่ดิน เปิดเผยว่า ในส่วนของกรมที่ดินได้รับนโยบายให้ตรวจสอบการออกโฉนดที่ดินจาก ส.ค.1 เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะในขั้นตอนการสำรวจ รังวัด และตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กรมที่ดินได้ประกาศให้ผู้ครอบครอง ส.ค.1 แจ้งการครอบครอง และครบกำหนดการเปิดให้แจ้งตั้งแต่ 7 ก.พ. 2553 พบว่ามีผู้เข้าแจ้งการถือครอง ส.ค.1 จำนวนมาก เพราะหลังจากนั้นหากต้องการยื่นขอออกโฉนด จะต้องยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่ง ซึ่งอาจยุ่งยากในทางปฏิบัติ
สงขลา-โคราชแชมป์ค้าง ส.ค.1
รายงานข่าวจากกรมที่ดินเปิดเผยว่า ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 20 ก.ย. 2554 มีคำขอออกโฉนดที่ดินจาก ส.ค.1 ที่ค้างสำรวจ ณ วันที่ 8 ก.พ. 2553 รวมทั้งสิ้น 471,850 ราย โดยจังหวัดที่มีผู้ยื่นคำขอสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จ.สงขลา 46,514 ราย นครราชสีมา 43,141 ราย ปัตตานี 37,929 ราย อุดรธานี 29,821 ราย บุรีรัมย์ 28,274 ราย สรุปผลการดำเนินการถึงปี 2556 จังหวัดที่มีคำขอที่ยังไม่ได้ดำเนินการมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จ.เชียงใหม่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สกลนคร และสงขลา ขณะเดียวกันคาดว่ายังมีคำขอออกโฉนดจาก ส.ค.1 ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ณ ปี 2556 จำนวน 230,313 ราย
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 16 ม.ค. 2558
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.