หลังสิ้นสุดโครงการ“จำนำข้าว”วิบากกรรมชาวนาไทยยังไม่มีที่สิ้นสุดเพราะนอกจากต้องเผชิญกับวิกฤตราคาตกตํ่าสุดขีดไม่คุ้มกับต้นทุนการผลิตแล้วยังต้องถูกโรงสีกดราคาซื้ออีก แถมรถเกี่ยวข้าวขาดแคลนหากต้องการใช้บริการต้องลัดคิวแต่จ่ายเงินเพิ่มอีกไร่ละเกือบเท่า ชาวนายิ่งชอกชํ้าใจนํ้าตาอาบแก้มข้าวเปลือกที่ตากแห้งไล่ความชื้นกลับถูกหัวขโมยย่องลักหมดเกลี้ยง
วิศรุต พรมนัส อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านสุขสำราญ หมู่ 18 บอกว่า ชาวนาต.ชุมแสง และ ต.ตาเสา อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนอย่างหนักเพราะขาดแคลนรถเกี่ยวข้าวหลังจากผู้ประกอบการไม่กล้าเข้ามารับจ้างในพื้นที่เนื่องจากกระแสข่าวลือว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารออกตรวจเข้มจับกุมรถเกี่ยวข้าวที่เก็บค่าจ้างเกี่ยวแพงเกินไร่ละ 500 บาท
อีกทั้งทางองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)ปิดประกาศเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรถเกี่ยวนวดข้าวจากนอกพื้นที่คันละ 2,000 บาท ทำให้ขณะนี้ในพื้นที่ ต.ชุมแสง และ ต.ตาเสา เหลือรถเกี่ยวข้าวเพียงไม่กี่คัน ซึ่งไม่เพียงพอกับความต้องการของชาวนาที่ต้องการจะจ้างเกี่ยวข้าวที่ยังเหลืออีกมากกว่า 2,000 ไร่ ส่งผลให้ข้าวที่สุกแก่เริ่มแห้งกรอบและล่วงหล่นได้รับความเสียหาย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนาเป็นอย่างมาก หากต้องการลัดคิวก็ต้องจ่ายให้รถเกี่ยวข้าวจากไร่ละ 500 บาทเป็นไร่ละ 650 บาท
ทำให้ชาวนาส่วนใหญ่ต้องจำใจจ่ายเงินค่าเกี่ยวข้าวเพิ่ม เช่นเดียวกับ เขียน ชิรัมย์ อายุ 75 ปี ชาวนาบ้านสุขสำราญ ต.ชุมแสง ซึ่งทำนาทั้งหมด 30 ไร่ ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเพื่อจ้างรถเกี่ยวข้าวเก็บเกี่ยวผลผลิตเพราะหากปล่อยไว้นานกว่านี้ข้าวก็เกิดความเสียหาย แต่หากจะจ้างแรงงานเกี่ยวข้าวทุกวันนี้ก็ไม่มีแล้ว
“ทุกวันนี้ไม่แรงงานเกี่ยวข้าวเหมือนในอดีตแล้ว ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ค่อยนิยมเพราะเสียเวลานวดข้าวอีกทอด ไม่เหมือนจ้างรถเกี่ยวข้าวพร้อมกับนวดข้าวไปในตัว แต่ค่าเกี่ยวข้าวแพงขึ้นทุกปี เพราะผู้ประกอบการเรียกราคาเท่าไหร่ก็ยอมจ่าย ยิ่งในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวต้องแย่งคิวกันอีก ผู้ประกอบการก็เลยถือโอกาสรีดไถ่เงินชาวนาตามใจชอบ ”เขียน กล่าว
ไม่แตกต่างกับชาวนา อ.โชคชัย จ.นคราชสีมา ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ขาดแคลนรถเกี่ยวข้าวอย่างหนัก เนื่องจากรถเกี่ยวข้าวที่เคยใช้บริการทุกปีแจ้งว่าปีนี้จะไม่เดินทางมาในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และภาคตะวันออกเฉียงเหนือแล้ว เพราะประสบปัญหานํ้ามันแพง รวมถึงอะไหล่ซ่อมแซมรถอุปกรณ์เกี่ยวข้าวก็มีราคาแพง ไม่คุ้มทุนนำรถเกี่ยวข้าวมารับจ้างเกี่ยวข้าว
ด้วยเหตุนี้ผู้ที่รับจ้างเกี่ยวข้าวปกติจะรับจ้างเกี่ยวข้าวไร่ละ 500-600 บาท ตัดสินใจไม่เดินทางมา ส่งผลให้รถรับจ้างเกี่ยวข้าวในพื้นที่ อ.โชคชัย ที่มีอยู่ไม่กี่คันจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร ชาวนาต้องรอเข้าคิวนานนับ 1 เดือน แต่หากลัดคิวก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นอีก จึงจำใจต้องยอมพราะไม่อยากปล่อยให้ข้าวที่พร้อมเก็บเกี่ยวเสียหาย ความชื้นในต้นข้าวอาจจะถูกแดดเผาจนทำให้ต้นข้าวแห้ง แต่เมื่อถึงคิวเกี่ยวข้าว ก็จะทำให้ได้ผลผลิตไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
“ขณะนี้ชาวนาพื้นที่ อ.โชคชัย กำลังประสบปัญหารถเกี่ยวข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากรถเกี่ยวข้าวจากจังหวัดอื่นไม่มารับจ้างอีกแล้ว อ้างไม่คุ้มเพราะราคานํ้ามันเชื้อเพลิงก็ปรับตัวสูงขึ้น ทำให้แบกภาระที่สูงขึ้น เหตุนี้ชาวนาในพื้นที่ไม่มีรถเกี่ยวข้าวเพียงพอ ต้องแย่งกัน ไม่อยากปล่อยให้ผลผลิตเสียหาย”สมคิด ชาติกระโทก อายุ 47 ปี ชาวนาบ้านโกรกนํ้าใส หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือชาวนาที่กำลังเดือดร้อน
ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่ชาวนาอ.สตึก จ.บุรีรัมย์ และอ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เผชิญกับวิบากกรรมขาดแคลนรถเกี่ยวข้าวจนถูกผู้ประกอบการโขกราคาเกี่ยวข้าวแพงซํ้าเติมทุกข์ชาวนายุคราคาตกตํ่า ชาวต.บ้านแร่ อ.เขวาสินรินทร์ จ.สุรินทร์ ก็นํ้าตาตกไม่แพ้กัน เพราะถูกคนร้ายอาละวาดขโมยข้าวหอมมะลิที่เก็บเกี่ยวแล้วนำมาตากแดดให้แห้งบนท้องถนนและสถานที่ต่าง ๆ ไปเกลี้ยง ชาวนาหลายรายถึงกับหมดเนื้อหมดตัว
พล.ต.ต.กาญจน์พศ ชัยศิริชาญพนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ตำรวจสายตรวจทุกพื้นที่ในสังกัด เพิ่มความเข้มในการออกตรวจตราโดยเฉพาะบริเวณถนนสายรองในหมู่บ้านที่เกษตรกรใช้ในการตากข้าว เพื่อป้องปรามคนร้ายขโมยข้าวชาวบ้าน พร้อมกับกำชับให้มีการประสานองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นทุกพื้นที่ ให้จัดเจ้าหน้าที่ อปพร.ของแต่ละหมู่บ้าน ออกตรวจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อป้องปรามกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว
หากประชาชนพบเห็นเบาะแสการลักขโมยพืชผลทางการเกษตร ขอให้แจ้งตำรวจเข้าดำเนินการจับกุมได้ทันที เพราะหากปล่อยให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นก็จะเป็นการซํ้าเติมเกษตรกรที่ต้องลงทุนลงแรงและทุ่มเทเป็นอย่างมากกว่าจะรับได้ผลผลิต
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ วันที่ 25 พ.ย. 2557