นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวในงานสัมมนา "เมกะโปรเจกต์ระบบรางพลิกโฉมอสังหาฯไทย" ว่าภาพรวมอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯและปริมณฑลปี 2557 จะหดตัว 11-14% หรือมูลค่าตลาดอยู่ที่ 3-3.1 แสนล้านบาท จากปี 2556 ที่มีมูลค่า 3.5 แสนล้านบาท
ส่วนปี 2558 คาดว่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 5% โดยมีมูลค่าตลาดราว 3.15-3.2 แสนล้านบาท เนื่องจากราคาที่ดินมีราคาสูงมาก โดยช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินปรับขึ้นเป็นเท่าตัว ซึ่งการซื้อที่ดินใหม่เพื่อพัฒนาโครงการเพื่อขาย ราคาขายเกินกำลังที่ผู้บริโภคจะซื้อได้ อาจเป็นปัจจัยที่ฉุดตลาดให้โตน้อย
ขณะเดียวกันมองว่าตลาดปีหน้าจะเป็นตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ จะเห็นการร่วมทุนซื้อกิจการและควบรวมกิจการเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งการแตกไลน์เข้ามาในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งด้านเงินทุนและมีที่ดินสะสมอยู่แล้วโดยเป็นการนำที่ดินเก่ามาพัฒนาโครงการส่วนตลาดต่างจังหวัดปี 2558 มองว่ายังชะลอตัวต่อเนื่องจากปีนี้
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยเสี่ยงในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ คือ ราคาที่ดินที่สูงขึ้น เนื่องจากที่ดินมีจำกัด โครงการใหม่ที่เกิดขึ้นราคาขายจะสูงตามต้นทุน โดยราคาที่ดินขึ้นเฉลี่ย 9-10% แต่เงินเดือนขึ้นเพียง 4-5% ต่อปี
ทำให้ความสามารถในการซื้อติดลบ ต้องรอโครงการลงทุนภาครัฐทั้งรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ ที่จะเป็นการเปิดทำเลใหม่ให้ผู้ประกอบการไปพัฒนาโครงการในราคาที่ลูกค้าซื้อได้ เรื่องการเงินก็เป็นเรื่องที่ท้าทายเนื่องจากสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการให้สินเชื่อ รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ขณะที่ด้านกฎหมายผู้ประกอบการต้องละเอียดรอบคอบมากขึ้น เพราะมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องจำนวนมากและยังมีกฎหมายใหม่ด้วย
ที่มา : มติชน วันที่ 20 พ.ย. 2557