มติการประชุมของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติครั้งที่ 1 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานนั้น นับเป็นเรื่องสำคัญ เจตนาที่จะช่วยเหลือประชาชนผู้ไร้ที่ดินทำกิน เป็นเรื่องที่ขอบคุณรัฐบาล เป็นเรื่องแสดงว่ารัฐบาลต้องการไขปัญหาความยากจนของผู้ยากไร้
มติสำคัญของคณะกรรมการนโยบายที่ดินฯ คือการพิจารณาแต่งตั้งอนุกรรมการ 3 ด้าน ได้แก่1.อนุกรรมการจัดหาที่ดินมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน มีหน้าที่จัดหาที่ดินให้คนยากจนทำกิน 2.อนุกรรมการจัดที่ดิน มี รมว.มหาดไทยเป็นประธาน มีหน้าที่จัดคนลงพื้นที่หลังจากที่คณะที่ 1 จัดหาพื้นที่แล้ว เพื่อให้เหมาะกับขนาดของพื้นที่ตามท้องถิ่นนั้นๆส่วนกระทรวงมหาดไทย จะมีรายชื่อประชาชนที่ยากไร้ ขณะที่คณะที่ 1 มีรายชื่อของผู้บุกรุกพื้นที่ที่ถูกผลักดันออกไป และจะนำรายชื่อมาพิจารณาร่วมกันแล้วคัดเลือกว่าใครควรได้รับการจัดสรรที่ดินทำกิน 3.อนุกรรมการส่งเสริมพัฒนาอาชีพ มี รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน มีหน้าที่ในการพิจารณาว่าพื้นที่ไหนควรจะทำอาชีพอะไรจึงจะเหมาะสม และจะทำหน้าที่ในการจัดระบบการใช้ประโยชน์ที่ดินตามนโยบาย โดยจะไม่มอบให้เป็นสิทธิรายบุคคล แต่จะมีการจัดหาระบบใหม่ เช่น การใช้ระบบสหกรณ์ หรือระบบอื่น โดยพิจารณาตามลักษณะพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้การตรวจสอบจำนวนผู้ยากไร้จะใช้เลขที่ประจำตัวประชาชนในการตรวจสอบผู้ยากไร้เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน
ดูหลักการแล้วก็นับว่ามีหลักการรอบคอบมากขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือประชาชนผู้ไร้ที่ดินทำกินนั้น เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและสลับซับซ้อน จำเป็นต้องพิจารณายุทธศาสตร์อย่างรอบด้านหลักการสำคัญก็ยังเป็นเรื่องที่เราเน้นมาสองครั้งต่อเนื่องกันแล้วว่า การช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้นั้น มิใช่การเอาปลาไปแจกให้ชาวบ้านกิน แต่จะต้องทำให้ชาวบ้านรู้จักจับปลาเป็น มีแหล่งจับปลา รู้จักเลี้ยงปลา รู้จักขายปลา มีตลาดที่ยุติธรรมในการซื้อขาย
การมอบที่ดินให้ผู้ยากไร้ โดยไม่มีการพัฒนา ปรับปรุง ช่วยเหลือ รอบด้าน ชาวบ้านยังยากไร้อยู่ แล้วในที่สุด ที่ดิน ที่รัฐมอบให้ก็จะตกไปอยู่ในมือผู้มีเงินทุนซื้อที่ดิน ปัญหานี้นายกรัฐมนตรีก็คงทราบอยู่แล้ว จึงเน้นเรื่องจะมอบที่ดินให้กับ สหกรณ์ ของชาวบ้าน ชาวบ้านไม่มีสิทธิ์ขายที่ดินนั้น
แต่จากบทเรียนในอดีต ทุก ๆ ครั้งที่รัฐมอบที่ดินให้แก่ผู้ยากไร้ ก็จะมีมาตรการป้องกันการขายสิทธินั้น ๆ แต่แล้วก็ปรากฏว่า ยังมีการซื้อขาย โอนถ่ายมือกันมากมาย จะมีกฎหมายละเอียดอย่างไร คนไทยก็เก่งที่จะเลี่ยงและละเมิดกฎหมายได้ ปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือ การแถลงนโยบายแบบตีขลุมกว้างขวางเกินไป ที่ดินอันจะนำมาจัดสรรนั้นมีอยู่อย่างไร อยู่ที่ไหน ก็ไม่ชัดเจน และการจัดสรรให้ชาวบ้านเข้าทำประโยชน์แบบใด ก็ยังต้องรออีกนาน
ปัญหาของผู้ไร้ที่ดินทำกินนั้นใหญ่โตมาก ประกอบด้วยผู้คนหลายส่วนหลายพื้นที่ การให้ความช่วยเหลือจะต้องสอดคล้องกับสภาพรูปธรรมของคนแต่ละกลุ่ม การประกาศนโยบายกว้าง ๆ อย่างนี้ ทำให้รัฐบาลได้รับความชื่นชม แต่เราห่วงว่า เมื่อไปถึงงานระดับรูปธรรม ผลสำเร็จที่ถึงมือชาวบ้านแล้วน่าพอใจ จะน้อยเกินไป ดังที่เราเสนอข้อคิดเห็นต่อเนื่องมาสองฉบับแล้ว
ที่มา : สยามรัฐ วันที่ 11 พ.ย. 2557