“หม่อมอุ๋ย” รายงานความคืบหน้ามาตรการรัฐต่อ คสช. ยันเร่งเบิกงบประมาณพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ระบุเงินช่วยชาวนาถึงมือครบทุกครัวเรือนสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ขณะที่กรมชลฯกลุ้ม ชาวนาฝ่าฝืนแอบปลูกข้าวนาปรังแล้วกว่าล้านไร่ ย้ำไม่มีเงินช่วย ขออย่าร้อง! หากไม่มีน้ำปลูกข้าว
ร.อ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. เป็นประธาน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ได้รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในระยะ 3 เดือนแรก ระหว่าง ต.ค.-ธ.ค.2557 ทั้งในส่วนงบกลางที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปีในอดีต ปี 2555-2557 จำนวน 7,800 ล้านบาท และงบไทยเข้มแข็ง 15,200 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 23,000 ล้านบาท
โดยขณะนี้มีส่วนราชการขอรับการสนับสนุนมาแล้ว ได้แก่ กระทรวงศึกษาธิการ 13,198 ล้านบาท กระทรวงคมนาคม 3,898 ล้านบาท กระทรวงสาธารณสุข 2,725 ล้านบาท กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 2,442 ล้านบาท กระทรวงกลาโหม 736 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ โดยคาดจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์แรกของเดือน พ.ย. ส่วนงบไทยเข้มแข็งจะต้องเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบก่อนจึงจะพิจารณาจัดสรร ส่วนงบลงทุนปีงบประมาณ 2557 ที่ยังเหลืออยู่ 147,050 ล้านบาท และงบลงทุนไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2558 (ต.ค.-ธ.ค.) วงเงิน 129,522 ล้านบาท และเงินเบิกจ่ายเหลื่อมปีตั้งแต่ปี 2548-2556 จำนวน 24,892 ล้านบาทนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการ โดยกระทรวงต่างๆ อยู่ระหว่างพิจารณาโครงการที่ต้องการใช้เงินเพื่อแจ้งสำนักงบประมาณต่อไปชาวนา...กระดูกสันหลังของชาติ
สำหรับการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย คือ ชาวนา รองนายกฯรายงานว่า นับถึงวันที่ 31 ต.ค.2557 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมกันตรวจสอบทะเบียนชาวนาแล้ว 400,000 รายเศษ และเริ่มนำเงินเข้าบัญชีแล้ว 142,000 ราย เป็นที่ดินประมาณ 1.73 ล้านไร่ คิดเป็นเงินที่จ่ายไปแล้ว 1,730 ล้านบาท โดยคาดว่าจะนำเงินเข้าบัญชีชาวนาที่ได้สิทธิได้ทั้งหมดประมาณ 3.4 ล้านครอบครัวภายในสิ้นเดือน พ.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ภายหลังการประชุมร่วม ครม.และ คสช.เสร็จสิ้น ได้มีการประชุม ครม.ต่อ ซึ่ง ม.ร.ว.ปรีดิยาธรได้รายงาน ครม.ถึงการเบิกจ่ายงบประมาณ ตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.2557 ว่า เบิกจ่ายทั้งสิ้น 367,703 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินงบประมาณ 344,801 ล้านบาท เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี 22,796 ล้านบาท เงินไทยเข้มแข็ง 2.60 ล้านบาท เงิน พ.ร.ก.น้ำ 102 ล้านบาท มากกว่าระยะเดียวกันของปี 2557 หรือเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น 108,492 ล้านบาท
ทั้งนี้ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยด้วยว่า ครม. ได้อนุมัติเห็นชอบเพิ่มวงเงินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อกปี 2557/58 เพิ่มเติมอีก 4 ล้านตัน วงเงิน 612 ล้านบาท จากเดิม 2 ล้านตัน วงเงิน 315 ล้านบาท รวมเป็น 6 ล้านตัน วงเงิน 927 ล้านบาท แยกเป็นค่าชดเชยดอกเบี้ย 3% จำนวน 918 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายดำเนินการ 9 ล้านบาท นอกจากนั้น ครม.ยังได้อนุมัติแนวทางและวิธีการจ่ายเงินโครงการชดเชยรายได้แก่เกษตรกรชาวสวนยางไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกินรายละ 15 ไร่ โดยมีเงื่อนไข อาทิ เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการต้องมีสัญชาติไทย ได้รับ 1 ครัวเรือน 1 สิทธิ์ ทั้งนี้ จะมีระยะเวลารับแจ้งเกษตรกรเข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.-15 ธ.ค.2557
ด้านนายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่ามีชาวนาในลุ่มน้ำเจ้าพระยา และลุ่มน้ำแม่กลองลงมือปลูกข้าวประมาณ 1 ล้านไร่ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนประกาศของทางราชการที่ห้ามปลูกข้าวนาปรังตลอดฤดูแล้งปีนี้ เนื่องจากมีปริมาณน้ำต้นทุนในเขื่อนไม่เพียงพอสำหรับการปลูกข้าวนาปรัง อย่างไรก็ตาม ภาครัฐไม่มีมาตรการเข้าไปลงโทษชาวนาที่ฝ่าฝืนปลูกข้าวนาปรัง
“ชาวนาที่ฝ่าฝืนจะต้องทราบว่าการลงทุนปลูกข้าวนาปรังฝ่าฝืนประกาศของกรมชลประทาน ถือว่าตาดีได้ตาร้ายเสีย หากเกิดความเสียหายได้รับน้ำไม่เพียงพอจนข้าวยืนต้นตาย ก็ไม่สามารถเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐได้ ซึ่งเป็นไปตามประกาศของกระทรวงเกษตรฯ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว และกระทรวงเกษตรฯอยู่ระหว่างการวางแผนรณรงค์ให้ประชาชนในทุกภาคทั้งครัวเรือน เกษตร และอุตสาหกรรมใช้น้ำอย่างประหยัด”
ด้านนายสุเทพ น้อยไพโรจน์ รองอธิบดีกรมชลฯ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนาแห่กันเข้ามาสมัครทำงานในโครงการการจ้างงานชาวนาเป็นแรงงานก่อสร้างและขุดลอกคูคลองกับกรมชลฯ เป็นจำนวนมาก โดยภาพรวมการเปิดรับสมัครงานชาวนา 2 วัน มีสำนักชลประทานเปิดรับสมัครชาวนารวมแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ สำนักชลประทานที่ 3, 4, 10 และ 12 มีชาวนาเข้ายื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งสิ้น 3,030 คน ซึ่งกรมชลฯจะกลับมาคัดเลือกจากใบสมัครอีกครั้งว่าชาวนาที่สมัครเข้าโครงการมีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการทำงานหรือไม่
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 5 พ.ย. 57
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.