6 พ.ย. 57 นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงมาตรการการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ผ่านสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ว่า รัฐบาลได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2556 เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ดำเนินการโครงการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยฯ โดยให้มีการพักหนี้กับสมาชิกที่มีหนี้เป็นระยะเวลา 3 ปี (ปี พ.ศ.2556 – 2558) กรอบงบประมาณรวม 3,684.714 ล้านบาท เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งมี 1.กรณีหนี้ค้างชำระ สมาชิกได้รับการพักชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทนสมาชิก ในอัตราร้อยละ 4 ต่อปี ของมูลหนี้ที่คงเหลืออยู่จริง 2.กรณีหนี้ปกติ สมาชิกเลือกพักเงินต้น และลดดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 3 ปี โดยรัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทนสมาชิกในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ของมูลหนี้ที่คงเหลืออยู่จริง หรือไม่พักเงินต้น แต่ลดดอกเบี้ย โดยรัฐบาลรับภาระจ่ายดอกเบี้ยแทนสมาชิกในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี ของมูลหนี้ที่คงเหลืออยู่จริง และ 3.การดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพเพื่อพัฒนาอาชีพเพิ่มรายได้ให้กับสมาชิก ที่มีหนี้ค้างชำระให้สามารถชำระหนี้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร
ด้านนายโอภาส กลั่นบุศย์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าผลการดำเนินงานโครงการพักชำระหนี้ฯ ดังกล่าวว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้รับกรอบงบประมาณในการดำเนินการรวม 3 ปี (ปี พ.ศ.2556 – 2558) กรอบงบประมาณรวม 3,684.714 ล้านบาท โดยการดำเนินการในปีที่ 1 ได้รับจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,966.960 ล้านบาท ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จ่ายเงินชดเชยดอกเบี้ยให้กับสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่พักหนี้หรือลดหนี้ให้สมาชิก จำนวน 1,796 แห่ง งบประมาณที่ชดเชยดอกเบี้ยรวมจำนวนทั้งสิ้น 1,092.397 ล้านบาท สมาชิกได้รับการชดเชยดอกเบี้ยจำนวน 653,563 ราย และจ่ายเป็นเงินอุดหนุนเพื่อดำเนินกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพสมาชิก จำนวน 264.351 ล้านบาท มีสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพจำนวน 88,117 ราย
สำหรับการดำเนินการในปีที่ 2 เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2557 คณะรัฐมนตรีได้พิจาณาเห็นว่าเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาหนี้สิน และสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพียงพอต่อการดำรงชีพ สามารถส่งชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรตลอดจนมีเงินเหลือออม สำหรับสร้างฐานะให้มีความมั่นคงได้ จึงได้อนุมัติจัดสรรงบประมาณ เพื่อจ่ายชดเชยดอกเบี้ยให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรที่พักหนี้หรือลดหนี้ให้สมาชิกในปีที่ 2 จำนวน 1,355 แห่ง งบประมาณที่ชดเชยดอกเบี้ยรวมจำนวนทั้งสิ้น 699.990 ล้านบาท สมาชิกได้รับการชดเชยจำนวน 258,001 ราย
“หากดำเนินการได้ตามเป้าหมายซึ่งจะแล้วเสร็จในปี 2558 จะส่งผลให้สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร จำนวน 623,369 ราย จาก 2,326 สถาบันเกษตรกร มูลหนี้ จำนวน 63,864.708 ล้านบาท ที่ได้รับการพักหนี้สามารถนำเงินทุนไปหมุนเวียนประกอบอาชีพอย่างน้อยปีละ 2 รอบ ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มปีละ 20,490.180 ล้านบาท (เฉลี่ยผลตอบแทนจากการลงทุนภาคเกษตร ร้อยละ 20) ขณะเดียวกันสมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร ที่ได้รับการอบรมกิจกรรมฟื้นฟูอาชีพเพื่อพัฒนาอาชีพให้เกิดรายได้แก่สมาชิกสามารถส่งหนี้ให้แก่สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรได้ภายหลังจากการเข้าร่วมโครงการ และสามารถลดต้นทุนดอกเบี้ยร้อยละ 4 อีกด้วย” นายโอภาส กล่าว
ที่มา : แนวหน้า วันที่ 6 พ.ย. 2557
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.