ข่าว “สังเวียน รักษาเพ็ชร”หรือป้าสังเวียน วัย 52 ปี ชาวอ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ราดนํ้ามันจุดไฟเผาตัว ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาลชั่วคราวตั้งอยู่ที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (กพ.) เพราะเครียดจากเป็นหนี้นอกระบบจาก 2.5 แสนบาท ดอกเบี้ยเพื่มพูนพุ่ง 1.5 ล้านบาท สร้างความสะเทือนใจให้กับคนไทยและมีการตั้งคำถามว่า ทำลูกหนี้นอกระบบจึงถูกเจ้าหนี้กดดันให้เป็นทุกข์ถึงกับต้องจุดไฟเผาตัวเอง
ทว่าเมื่อลองพลิกดูปูมหลังของป้าสังเวียน ตลอดจนรายละเอียดเรื่องการกู้เงินก็พบว่า มีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ และแตกต่างไปจากข่าวที่ปรากฏออกมาในช่วงหลังเกิดเหตุการณ์ใหม่ๆ
จากข้อมูลที่ตรวจสอบได้พบว่า ป้าสังเวียน มีความสนิทสนมและใกล้ชิดกับ “ธิดารัตน์ เทพอารักษ์” เจ้าหนี้ที่อาศัยอยู่เพียงลำพังกับมารดาอายุ 86 ปี ในย่านตลาดเคแลน อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี
"ได้เข้าพบธิดารัตน์ที่บ้านพักหลังดังกล่าว เท่าที่ดูสภาพความเป็นอยู่ครั้งแรกนึกว่าจะเป็นนายทุนเงินกู้ดอกโหดอย่างที่เป็นข่าว แต่เมื่อได้พบเห็นกลายเป็นว่าเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่กับแม่ที่มีอายุ 86 ปี ผมเห็นชีวิตความเป็นอยู่ของธิดารัตน์แล้ว คิดว่าน่าจะเป็นคนดีของสังคมไทยอีกคนหนึ่ง "ธนาคม จงจิระ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีระบุ
ผู้ว่าฯลพบุรีระบุอีกว่า จากพุดคุยกับธิดารัตน์ทราบว่าทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้นั้นมีความสนิทสนมและไว้วางใจซึ่งกันและกันจึงได้ให้เงินกู้หนี้ยืมสินกันเป็นประจำ ที่สำคัญ สังเวียน ถือได้ว่าเป็นมือขวาของ ธิดารัตน์ ก็ว่าได้ ยามที่ ธิดารัตน์ ล้มป่วยก็จะมอบหมายให้ สังเวียน รับหน้าที่เป็นผู้ปล่อยเงินกู้ หรือทวงหนี้แทน
ขณะที่ น.ส.จันทร์จ๋า ทองอร่าม น้องของสังเวียน ระบุว่า พี่สาวเดินทางมาร้องทุกข์ ศูนย์ร้องทุกข์ ทำเนียบฯมาแล้ว 6 ครั้ง แต่ก็ไม่ได้ความคืบหน้าอะไร ครั้งที่ก่อเหตุนี้ถือเป็นครั้งที่ 7 ที่มาและพี่สาวมาคนเดียว ส่วนนํ้ามันที่เอามาราดนั้น ไม่ได้พกก่อนออกจากบ้าน น่าจะหาซื้อระหว่างทาง ส่วนมีดพกที่พบในกระเป๋าก็พกไว้ป้องกันตัว จากคนที่มาทวงหนี้
น้องของสังเวียนระบุอีกว่า สังเวียนถูกนายทุนทวงหนี้จำนวน 1.5 ล้านบาท ทั้งที่ความเป็นจริงเป็นหนี้เพียง 3-4 แสนบาท ซึ่งที่ผ่านมามีการเจรจาประนอมหนี้หลายครั้งจาก 3.5 ล้านบาท จนเหลือ 1.5 ล้านบาท แต่พี่สาวก็ยังคงไม่มีความสบายใจ ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายทุนมายึดคืนนาเช่าและผลผลิต โดยพี่สาวเคยร้องเรียนกับทางการหลายครั้งแต่ไม่มีความคืบหน้า
อย่างไรก็ตามข้อความจากน้องสาวของ สังเวียน ดูจะตรงข้ามอย่างสิ้นเชิงกับคำชี้แจงของ สมาชิกเฟซบุ๊กชื่อ Ing Thanyawarin ซึ่งระบุว่าเป็นหลานของเจ้าหนี้ ที่ได้มีการโพสต์ชี้แจงเรื่องดังกล่าวผ่านเฟซบุ๊ก
Ing Thanyawarin ระบุว่า สังเวียนเป็นลูกจ้างครอบครัวตระกูล “เทพอารักษ์”และได้เช่าที่ 150 ไม่ได้นำไปทำนาเอง แต่นำไปปล่อยให้คนอื่นเช่าต่อ และที่ผ่านมาก็ไม่เคยจ่ายค่าเช่าให้กับเจ้าของที่
"ป้าสังเวียนมีโฉนดที่ดินเป็นของตัวเองประมาณ 100 ตารางวา และบ้านกระต๊อบเล็กๆ ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาได้กู้เงินกับ “ธิดารัตน์” ซึ่งเป็นน้าสาวซึ่งอาศัยอยู่กับคุณยายอายุ86 ปี ที่เจ้าของเฟซบุ๊กอ้างถึง ป้าสังเวียนมายืนเงินกับยายหลายครั้งและสะสมไปเรื่อยๆจนเป็นหนี้เพิ่มพูนทั้งหมดประมาณ 3 ล้านบาท (ไม่เคยเก็บดอกเบี้ย หรือเงินต้นทั้งหมด) ซึ่งสาเหตุที่ยายยอมให้ป้าสังเวียนยืมเงินจนเพิ่มเป็น 3 ล้านบาทเพราะยายถือว่าป้าสังเวียนเป็นลูกน้องเก่าจึงไว้เนื้อเชื่อใจกัน "Ing Thanyawarin" ระบุ
เธอชี้แจงอีกว่า ก่อนหน้านี้ป้าสังเวียนเคยเอาโฉนดมาจำนองไว้กับคุณยาย เจ้าหนี้จริง แต่ได้มาขอคืนไปเพื่อกู้เงินธนาคารออมสิน ซึ่งทางคุณยายเองก็ให้ไป แต่ต่อมาป้าสังเวียนไปร้องเรียนทั้งที่อ.โคกสำโรงและจ.ลพบุรีว่าถูกโกง ทางจ.ลพบุรี ได้ประชุมหาทางออกร่วมกันพร้อมถามป้าสังเวียนแล้วเป็นหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ ตอนนั้นป้าสังเวียนตอบวกไปวนมาจนสรุปมาได้ว่าเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท ซึ่งคุณยายเองก็มั่นใจว่าชาตินี้คงไม่ได้เงินคืน และไม่อยากวุ่นวายไปมากแล้ว ก็ตกลงกันว่าป้าสังเวียนว่าติดหนี้ 1.5 ล้านบาทก็แล้วกัน
"จำนวนเงินดังกล่าวทางครอบครัวเทพอารักษ์ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้คืนรวมทั้งลูกหลานก็ไม่หวังเงินจำนวนดังกล่าวเพราะทุกคนมีฐานะพอกินพอใจ ที่สำคัญไม่เคยไปทวงเงินดังกล่าว ตรงข้ามป้าสังเวียน กลับสร้างความเดือนร้อนให้น้าธิดารัตน์ รวมทั้งกับคุณยายซึ่งอายุ 86 ปีแล้ว
"คุณยายควรจะมีชีวิตบั้นบลายที่สงบสุข จึงไม่มีการติดตามเร่งรัดหนี้สินอะไร ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ทำ อะไรไม่ได้ คนไม่มีให้จะเอาอะไรได้"Ing Thanyawarin ระบุไว้ในเฟซบุ๊ก
เธอชี้แจงด้วยว่า ผู้ชายที่ป้าสังเวียนบอกว่าไปข่มขู่จะฆ่านั้น ป่วยเป็นลูคีเมีย ซึ่งไม่สามารถลุกจากเตียงไปไหนเองได้แล้ว ครั้นจะไปขู่ฆ่าป้าสังเวียนก็คงจะเป็นไปไม่ได้
"ที่ผ่านมาหนี้ติดต้างครอบครัวจำนวน 3 ล้านบาท ก็ลดลงเหลือ 1.5 ล้าน บาท ตามที่ป้าสังเวียนเป็นคนบอกอย่างนั้น โดยมีการเซ็นชื่อรับรู้จากทางจ.ลพบุรีด้วยพบครอบครัวทวงถามหนี้สินป้าสังเวียนก็ไม่มีจ่าย จากนั้นก็ไปร้องเรียนตามที่ต่างๆอีก คราวนี้ป้าสังเวียนไปร้องทุกข์ที่ศูนย์บริการประชาชนชั่วคราว ภายในสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) แต่ไม่ได้รับความสนใจและจุดไฟเผาตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ"
นี่คือสองมุมที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่างคำชี้แจงของฝ่าย ลูกหนี้ และเจ้าหนี้ ซึ่งไม่ว่าแท้จริงแล้วสาเหตุที่มาของเรื่องจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ควรจบด้วยการบาดเจ็บของใครคนใดคนหนึ
ที่มา : โพสต์ทูเดย์ วันที่ 16 ต.ค. 2557