“นายกฯ ตู่” แจงผลประชุมนโยบายข้าว โต้ประชานิยม ให้ใช้ว่าแก้ปัญหาเร่งด่วน เตรียมชงค้างจ่ายจำนำข้าวเข้า ครม. จับศูนย์ดำรงธรรม-ศูนย์เกษตรร่วมทำ งานขับเคลื่อนภาคเกษตร สั่งหาทุนการศึกษาลูกชาวนา หวังสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ บอกห่วงประชาชนรายได้น้อย ไม่มีที่ดินทำกิน สั่งตั้งคณะกรรมการจัดสรรที่ดินให้
นนี้ (6 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการ ข้าว ครั้งที่ 1/2557 ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวฯ ซึ่งจัดตั้งขึ้นตั้งแต่มี คสช.แล้ว เราได้มีการแก้ปัญหามาตามลำดับ อย่างที่ตนเคยเรียนว่าปัญหาเร่งด่วนที่แก้ไขทันที 4 เดือนแรก ในระยะที่ 1 คือ เรื่องการจ่ายเงินจำนำข้าว ปัญหาความเดือดร้อนต่างๆ ของชาวนา ชาวไร่ ระยะที่ 2 เมื่อเรามีรัฐบาล 1 ปีในปัจจุบัน ก็ทำต่อเรื่องมาตรการระยะยาว ซึ่งเราก็ทำคู่ขนานกันมาตลอด วันนี้จากสื่อต่างๆ บอกว่าเราประชานิยมนั้นไม่ใช่ เราใช้คำว่าแก้ปัญหาเร่งด่วน ให้ชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน ที่มีปัญหามาก่อน และเดินคู่ขนานว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความยั่งยืนระยะยาวต่อไปด้วย
นายกฯ กล่าวต่อว่า วันนี้คิดว่าสถานการณ์โลกเรื่องข้าวนั้นยังมีความต้องการอยู่ในทุกพื้นที่ ก็มีปัญหาบ้างเรื่องขายแล้วส่งไม่ได้ มีการสู้รบ มีโรคระบาดอีโบลา เหล่านี้มีปัญหาหมด เพราะต้องมีการขนส่งทางเรือ เราเคยขายข้าวได้ทั้งด้านแอฟริกา ยุโรป ตะวันตก วันนี้ก็มีปัญหา เราขายข้าวได้มากจริง แต่ราคาข้าวทั้งโลกมันไม่สูงมากนัก เพราะมีการปลูกมากขึ้น มีการแข่งขันด้านราคากันมากขึ้น แต่ก็เป็นที่น่าดีใจที่การส่งออกข้าวมีจำนวนที่สูงขึ้น อาจเป็นที่หนึ่งในอาเซียนแล้วขณะนี้ ก็เป็นที่น่าดีใจ แต่จะทำอย่างไรให้ราคาสูงขึ้นอีกในอนาคต วันนี้เรามาพูดถึงว่า 1. จะทำอย่างไรให้ราคาสูงขึ้น และ 2. เราจะทำอย่างไรให้เกิดความยั่งยืนขึ้นในการต้องการปลูกข้าว การปรับปรุงพันธุ์ข้าว การกำหนดพื้นที่ในการปลูกข้าว และความต้องการในตลาด เพื่อยกระดับชาวนาให้ดีขึ้นตามลำดับ
นายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องจัดกลุ่มของ ชาวนาไว้ให้ได้ คือ 1. ชาวนาที่มีที่ทำกินน้อย รายได้น้อย ยากจนมาก 2. ชาวนาที่มีพื้นที่เกิน 40 ไร่ขึ้นไป 3. ชาวนาที่มีเงินทุนสูง เป็นการเพาะปลูกสมัยใหม่ ผลิตแนวใหม่ ใช้เครื่องจักรเครื่องมือต่างๆ กลุ่มนี้ไม่ได้เดือดร้อนมากนัก และ 4. กลุ่มเจ้าของที่ที่ให้เช่านาเยอะๆ ฉะนั้นเราต้องแบ่งเกรดในการดูแลช่วยเหลือตามลำดับ ชาวนาชาวไร่ที่มีพื้นที่ทำกินน้อยทำอย่างไร เราให้ความสำคัญเร่งด่วนก่อน แต่ก็ดูอื่นๆ ด้วย วันนี้ได้พูดคุยทั้งมาตรการเร่งด่วน มาตรการระยะสั้น ระยะยาว และปัญหาเกษตรกรบางพื้นที่ที่ไม่ได้เงินจากจำนำข้าว ที่ค้างไว้ 2-3 จังหวัด ได้หารือแล้วว่าสมควรช่วย เพราะเขามีข้าวอยู่แล้ว เพียงแต่วิธีการที่เขาเข้าไปไม่ทัน เวลาบ้าง บางทีก็มีคนไปหลอกเขาบ้าง เราจะเคลียร์เรื่องเหล่านี้ และจะช่วยจะเหลือ ชาวนาไม่ต้องเป็นห่วง ขอให้มีข้าวอยู่ เราจะแก้ไขปัญหาให้ เข้าที่ประชุม ครม.ให้เรียบร้อย
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า เรื่องศูนย์ดำรงธรรมของกระทรวงมหาดไทย และศูนย์เกษตร ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เราจะเชื่อมโยงสองศูนย์นี้เข้าด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนทุกอย่างให้เกษตรกรและประชาชนทั้งหมดทุกปัญหา ต่อไปเราจะให้ความรู้ว่าเรา จะกำหนดพื้นที่กันอย่างไร แต่จะไปห้าม หรือจ้างเขาเลิกไม่ได้ ต้องสร้างแรงจูงใจ เช่น พื้นที่นี้ต้องปลูกอะไร และสนับสนุนวิธีการสมัยใหม่ วันนี้เราจะใช้ศักยภาพของรัฐทั้งหมด ทั้งกรมวิชาการการเกษตร กรมที่ดิน ทุกกระทรวงต้องร่วมกันหมดว่าจะทำอย่างไร เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้บูรณาการเหล่านี้ ฉะนั้นเราดูตั้งแต่วิธีการผลิต การตลาด การลดต้นทุนการผลิต ซึ่งการจ่ายชดเชยปัจจัยการผลิตแก่ชาวนาไร่ละ 700 บาทของ คสช.ก็รู้อยู่ไม่ทั่วถึงร้อยเปอร์เซ็นต์ ก็จะไปสำรวจให้ นอกจากนี้ระยะยาวตนมีแนวคิดสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ขึ้นมาให้ได้ ต้องเริ่มการเรียนรู้ตั้งแต่บัดนี้ ได้มอบหมายให้ทุกกระทรวงไปหาทุนการศึกษาให้ลูกชาวนา ไปเรียนปริญญาตรี ปริญญาเอก หรือให้ถึงดอกเตอร์เลยได้ไหม ทุกอำเภอ ทุกจังหวัดก็จะได้มีเกษตรกรที่มีความรู้ ตั้งแต่เรื่องการปลูก การปรับปรุง และเทคนิคต่างๆ เราต้องสร้างอนาคตวันหน้า ให้มีคนที่เป็นตัวแทนเราในแต่ละพื้นที่ ถ้าไม่มีคนเหล่านี้ไม่มีทางเป็นไปได้
นายกฯ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องการโซนนิ่งพื้นที่ได้มอบหมายตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยเป็นประธาน โดยมีกระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ร่วมด้วย จะได้ทำงานไปด้วยกัน รู้ขั้นตอนว่าปลูกอย่างไร ขายอย่างไร ตลาดว่ายังไง จะได้ไม่ต้องโทษกันไปมา ขณะเดียวกันจะดูแลไปถึงเกษตรกรยางพาราด้วย ต้องทำให้เขาใช้ที่น้อย ใช้น้ำน้อย มีผลผลิตสูง ราคาดี แต่ก็ยาก ทุกคนคงเข้าใจ ตนจึงมีความคิดว่าทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้คนรักชาวนา ทำอย่างไรคนทั้งโลกจะกินข้าว กินขนมจีน ไม่กินขนมปัง เหมือนที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับสั่งไว้ว่านักกีฬาทั่วโลกเดี๋ยวนี้เขาทานข้าว เขาจึงมีพลังมาสู้เราได้ ดังนั้นถ้าทั้งโลกกินข้าวเราก็ขายข้าวได้
นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องข้อมูลต่างๆที่ทุกคนเป็นห่วง ทั้งเรื่องจดทะเบียนชาวนา ได้ให้กระทรวงเกษตรฯร่วมกับกระทรวงมหาดไทยไปสำรวจให้ชัดเจนขึ้น ต่อไปนี้ประมาณไม่ได้ ต้องรู้ว่าอยู่นอก เขตชลประทานเท่าไหร่ ในเขตชลประทานเท่าไหร่ ปลูกอะไร ในแต่ละพื้นที่เท่าไหร่ ข้าวคุณภาพดี คุณภาพไม่ดี ปานกลาง ด้อยต้องรู้ ทั้งนี้ได้มีตลาดของแต่ละส่วนอยู่แล้ว เราปลูกข้าวดีทั้งหมด แต่จะไปขายใครได้ทั้งหมดไม่ได้ บางประเทศกินข้าวหอมมะลิ บางประเทศกินข้าวราคาต่ำ บางประเทศกินข้าวนึ่ง เพราะเขาไม่มีเงินซื้อ ฉะนั้นต้องมีตลาดข้าวแต่ต้องไม่เกินความต้องการของตลาดโลก นี่คือสิ่งที่ต้องนำไปสู่การโซนนิ่งของเรา และตนได้ให้แนวทางกับกระทรวงอุตสาหกรรมด้วยว่าจะทำอย่างไรลุ่มน้ำทั้งหมดจะมีแต่ปลูกพืช เพราะติดกับแม่น้ำ หากไปตั้งโรงงานก็เสียของ ก็คงต้องปรับแก้เพื่อไม่ให้เกิดใหม่ในอนาคต
นายกฯ กล่าวอีกว่า อีกสิ่งหนึ่งตนอยากส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ เชิงนิเวศน์ ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดว่าใครอยากจะมาเที่ยวไทยแบบโฮมสเตย์ มากินนอนสัก 15-20 วัน เท่าที่ตนดูต่างชาติชอบ มาทำนากันสนุกสนาน และให้ความรู้เรื่องขั้นตอนการผลิตข้าว เพื่อให้เขารู้ถึงความยากกว่าจะมาเป็นข้าวแต่ละเมล็ด ซึ่งคนไทยยังไม่รู้ ลูกหลานกินข้าวเหลือ เป็นตนไม่ยอม สมัยเป็นนักเรียนนายร้อยถ้ากินข้าวไม่หมดจานต้องแบกข้าวเม็ดเดียวไปวิ่งรอบโต๊ะ ต้องเข้มงวด เพราะสงสารชาวนา ที่เขาไม่เคยร่ำรวยขึ้นมาเลย ฉะนั้นต้องยกระดับข้างล่างให้สูงขึ้นให้ได้
นายกฯ กล่าวด้วยว่า อีกเรื่องที่เป็นห่วงคือ ประชาชนที่มีรายได้น้อย แล้วไม่มีที่ดินทำกิน ตนกำลังตั้งคณะกรรมการอีกคณะ โดยตนจะเป็นประธาน และให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับผิดชอบหลัก เพื่อบูรณาการว่าทำอย่างไรให้ประชาชนมีที่ทำกิน ประชาชนที่ถูกจัดระเบียบขณะนี้ขอให้อดทนไว้ก่อน ตนจะดูแลว่าจะทำอย่างไร ให้ประชาชนมีที่ดินหรือทำเป็นระบบสหกรณ์ได้ แต่จะให้เป็นที่ส่วนตัวเลยคงลำบาก ก็เป็นห่วงว่าประชาชนจะทำกินที่ไหน มีรายได้อย่างไร
ที่มา : ASTV ผู้จัดการ วันที่ 6 ต.ค. 2557