"หม่อมอุ๋ย" แจงมาตรการกระตุ้นศก.หลังครม.ไฟเขียว อัดฉีดงบกว่า 3 แสนล้าน เน้นสร้างงาน เพิ่มรายได้ สร้าง-ปรับปรุงสถานศึกษา โรงพยาบาล ช่วยต้นทุนผลิตชาวนา 3.4 ล้านครอบครัว วงเงิน 4 หมื่นล้าน คาดจ่าย 20 ต.ค.นี้ ยันไม่ใช่ประชานิยม...
เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วง 2-3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 58 โดยเน้นการสร้างงาน และเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาที่มีรายได้น้อย ด้วยการเร่งอัดฉีดงบประมาณกว่า 3 แสนล้านบาท
"เชื่อว่าทุกอย่างหงอยหมด แต่เราพยายามจะเร่งข้างใน สร้างงานให้คนเรามีงานทำ โดยยังไม่ขอประเมินว่า มาตรการที่ออกมาจะกระตุ้นเศรษฐกิจในไตรมาสสุดท้าย แต่เชื่อว่าจะเกิดการหมุนเวียน การจ้างงาน จับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจก็จะซ่อมไปเอง" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว
ทั้งนี้ ครม.อนุมัติมาตรการส่วนแรกเป็นมาตรการเพื่อการสร้างงาน ประกอบด้วย 5 แนวทาง คือ 1. ทบทวนเงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี 2548-2556 จำนวน 24,892.40 ล้านบาท โดยให้ทบทวนและเร่งรัดลงนามในสัญญาภายในเดือน ธ.ค.57 และรายงานผลใช้จ่ายงบประมาณทุกเดือน 2. เร่งรัดทำสัญญาจ้างรายจ่ายลงทุนปี 58 ที่ยังเหลืออยู่ วงเงิน 147,050.80 ล้านบาท ซึ่งทบทวนแล้ว ยืนยัน 132,160.90 ล้านบาท คงเหลือ 14,889.90 ล้านบาทที่ต้องปรับแผนใช้จ่ายให้ทันเดือน ธ.ค.57 3. เร่งรัดทำสัญญาจ้างรายจ่ายลงทุนปี 58 วงเงิน 129,522.20 ล้านบาท
4. งบกลางที่กันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี 55-57 และงบไทยเข้มแข็งปี 52 ที่เหลือ จำนวนรวม 23,000 ล้านบาท อาทิ ปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน และจัดหาครุภัณฑ์โรงเรียน สร้างอาคารเรียนใหม่ โรงเรียนชั้นประถมและมัธยม ห้องสุขาโรงเรียน ปรับปรุงอาคารและจัดหาครุภัณฑ์มหาวิทยาลัยของรัฐ จัดหาครุภัณฑ์การแพทย์ บำรุงรักษาทางและบูรณะทางสายหลัก และ 5. เร่งรัดอนุมัติส่งเสริมการลงทุน (BOI) ตามคำขอ 380 ราย วงเงินลงทุนรวมประมาณ 429,208 ล้านบาท
ส่วนด้านมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้มีรายได้น้อย ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตให้ชาวนา 3.4 ล้านครอบครัว วงเงิน 40,000 ล้านบาท แบ่งเป็น ชาวนาที่มีที่ดิน 15 ไร่ขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยค่าต้นทุนการผลิตครอบครัวละ 15,000 บาท ซึ่งมีจำนวน 1.6 ล้านครอบครัว และชาวนาที่มีที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ จะได้รับเงินช่วยค่าต้นทุนการผลิต 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งมีจำนวน 1.8 ล้านครอบครัว โดยมาตรการการสร้างงานจะเน้นการเร่งใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐทั้งของเก่าและใหม่ โดยสั่งการให้ทุกกระทรวงทบทวนโครงการที่พร้อมจะลงทุนและให้มีการเร่งทำสัญญาให้แล้วเสร็จภายใน ธ.ค.57 โดยหวังว่าถ้าสามารถสร้างงานเพิ่มขึ้น เชื่อมั่นว่าจะทำให้เศรษฐกิจกระเด้งขึ้น จากการสั่งซื้อสินค้า การก่อสร้าง และเพิ่มการจ้างงาน
ทั้งนี้ ในส่วนของงบลงทุนไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 58 ให้แต่ละกระทรวงไปเซ็นสัญญาจ้างงานและให้เกิดการประมูลงานให้ถูกต้อง โดยหวังว่าหากเบิกจ่ายได้ 30-40% ก็น่าจะทำให้เศรษฐกิจที่ชะลอไปนานฟื้นตัวแรงขึ้นมาทันที ส่วนงบไทยเข้มแข็งและงบกลางเหลื่อมปีจะเน้นโครงการซ่อมแซมต่างๆ การสร้างโรงเรียน บ้านพักข้าราชการ ที่พักสาธารณสุข รวมถึงการขุดลอกคูคลอง โดยเชื่อว่าจะเซ็นสัญญาได้ในเดือน พ.ย.นี้ ขณะที่การทบทวนเงินกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี 48-56 ให้แต่ละกระทรวงไปคิดแผนงานว่าจะนำงบเหล่านี้ไปใช้ในด้านใดบ้าง
ขณะที่ มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวนาที่มีรายได้น้อย ขณะนี้ราคาข้าวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ หรืออยู่ที่ประมาณ 8 พันบาท/เกวียน ขณะที่ต้นทุนบวกกับกำไรที่เหมาะสมน่าจะอยู่ที่ 9 พันบาท/เกวียน ทำให้ชาวนาได้รับความเดือดร้อน จึงต้องมีมาตรการช่วยเหลือเพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ โดยจะให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินให้ชาวนาที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งน่าจะจ่ายได้ก่อน 20 ต.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น เฉพาะฤดูกาลนี้ฤดูกาลเดียว พร้อมยืนยัน ไม่ใช่ประชานิยม เพราะไม่ต้องการคะแนนเสียง แต่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาหรือมีภาระจริงๆ
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 1 ต.ค. 2557
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.