กระทรวงเกษตรฯ ชง ครม.แก้ข้าว-ยางราคาตกแถมล้นตลาด ลดพื้นที่ปลูกข้าวลง 11 ล้านไร่ หนุนปลูกข้าวโพด-อ้อยแทน ส่วนยางลดพื้นที่ในภาคอีสานลง 2 ล้านไร่ รวมทั้งเร่งโค่นยางเก่า 4 แสนไร่หนุนปลูกปาล์มน้ำมัน เสนอรัฐช่วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ
รายงานข่าวจากกระทรวง เกษตรและสหกรณ์แจ้งว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 1 ต.ค. 2557 จะพิจารณาและแถลงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ในส่วนของกระทรวงเกษตรฯ มีนโยบายการปรับโครงสร้างราคาสินค้าที่มีปัญหาทางด้านราคา คือ ยางพารา และข้าว ทั้ง 2 ชนิดนี้มีปัญหาคือผลผลิตเกินความต้องการของตลาด อีกทั้งยังมีสินค้าอยู่ในสต๊อก
ดังนั้น จึงต้องแก้ไขปัญหาอย่างรอบคอบกับราคาของ ทั้งสองสินค้า โดยข้าวจะทยอยออกสู่ตลาดในช่วงพ.ย.นี้ และยางจะทยอยออกสู่ตลาดอีกครั้งตั้งแต่เดือนต.ค.นี้
ในส่วน ของข้าว ไทยมีพื้นที่ปลูกประมาณ 70 ล้านไร่ จากการสำรวจพบว่ามีพื้นที่ไม่เหมาะสมเลย 11 ล้านไร่ ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ มีเป้าหมายจะปรับเปลี่ยนพื้นที่ 11 ล้านไร่ จูงใจให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่นที่มีราคาดีและตลาดยังต้องการ คือข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อยโรงงาน และมันสำปะหลัง
"การปรับ เปลี่ยนให้ชาวนาหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจนั้น ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรฯกำหนดพืชไว้ 4 ชนิด คือปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง และ อ้อยโรงงาน"
ในส่วนของ ยางพบว่ามีพื้นที่ไม่เหมาะสมอยู่รวม 2 ล้านไร่ในเขตภาคอีสาน ทั้งหมดนี้จะต้องปรับเปลี่ยนให้ปลูกพืชชนิดอื่น นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ยางเก่าที่ต้องโค่นเพื่อ ปลูกใหม่ทดแทนตามเป้าหมายจะต้องทำให้ได้ 4 แสนไร่ ในจำนวนนี้อาจมีการปรับเปลี่ยนให้ปลูกปาล์มน้ำมัน
นายปีติ พงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างภาคการเกษตรในส่วนของข้าวจะใช้วิธีการ 1.สนับสนุนให้เปลี่ยนอาชีพไปทำการเกษตรชนิดอื่นที่เหมาะสมกว่า 2.สนับสนุนทำเกษตร ผสมผสาน ยึดแนวเศรษฐกิจพอเพียง 3.ปรับปรุงคุณภาพสินค้าเกษตร ทั้ง 3 แนวทางนี้เป็นมาตรการสมัครใจ รัฐบาลต้องอุดหนุนงบประมาณแบบจ่ายขาด
ในส่วนของยางพาราจะ ต้องโค่นยางเก่าอย่างจริงจัง 4 แสนไร่ ขับเคลื่อนกระบวนการปล่อยกู้ให้กับสถาบันเกษตรกร กู้เงิน 1.5 หมื่นล้านบาทเพื่อรับซื้อยาง และแปรรูป รวมทั้งให้ปล่อยกู้กับภาคเอกชนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องมืออุปกรณ์แปรรูป ผลิตภัณฑ์ 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะอุดหนุนดอกเบี้ยต่ำ
ที่มา : ข่าวสด วันที่ 30 ก.ย. 2557