สำนักงานทรัพย์สินฯ หนุนแนวทางรัฐบาลออกกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มั่นใจไม่กระทบการดำเนินงาน ชี้ที่ดินในการดูแล 41,000 ไร่ ทุกแปลงมีการใช้ประโยชน์ ไม่ปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า เผยนโยบายพัฒนาอสังหาฯ ใหม่ เลิกให้เอกชนเข้ามาประมูล หันมาพัฒนาที่ดินเองโดยมีบริษัท สยามสินธรฯ เป็นผู้ดำเนินการหลัก
ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กล่าวถึงการผลักดันให้มีการออกกฎหมายจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของกระทรวงการคลัง ว่ากรณีดังกล่าว สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้แสดงความเห็นต่อกระทรวงการคลังไปตั้งแต่ในช่วงรัฐบาลชุดก่อนว่า โดยเห็นด้วยว่าควรจะมีการจัดเก็บภาษีดังกล่าว ทั้งนี้ แม้ว่าสำนักงานทรัพย์สินฯ จะมีที่ดินที่อยู่ในความดูแลกว่า 41,000 ไร่ทั่วประเทศ แต่ที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ เกือบทั้งหมด ได้มีการพัฒนาและใช้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ ไม่มีที่ดินแปลงใดถูกปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า ดังนั้น การจัดเก็บภาษีที่ดินไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ กับการดำเนินงานของสำนักงานทรัพย์สินฯ
ทั้งนี้ สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้มีแนวนโยบายใหม่ในการบริหารจัดการที่ดิน และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การดูแลว่า จากนี้ไปที่ดินในส่วนที่มีการปล่อยเช่าแก่ประชาชนนั้น จะเน้นพัฒนาโครงการแนวสูง แต่จะให้ความสำคัญในการปรับปรุงและพัฒนาเป็นโครงการแนวราบ
สำหรับที่ดินที่มีศักยภาพสูงนั้นจะถูกแยกออกมาเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจากนี้ไปจะทำการพัฒนาโดยบริษัท สยามสินธร จำกัด มีสำนักงานทรัพย์สินฯ ถือหุ้น 100% รับหน้าที่ในการพัฒนาทั้งหมด จากเดิมที่เปิดให้บริษัทเอกชนเสนอแผนและประมูลที่ดินไปพัฒนา
“การที่ให้บริษัทลูกเป็นผู้พัฒนานั้น เพื่อให้โครงการต่างๆ เป็นไปตามเป้าหมาย และนโยบายของสำนักงานทรัพย์สินฯ ซึ่งจะไม่มุ่งเน้นที่การแสวงหากำไร โดยจะต้องไม่กระทบกับผู้เช่าเดิม รวมถึงต้องเป็นประโยชน์ต่อสังคมสูงสุดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แต่หากให้เอกชนเข้ามาเป็นผู้พัฒนาจะทำให้ผิดเป้าหมาย เพราะเอกชนจะมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ตอบแทนทาธุรกิจสูงสุด”
โดยโครงการแรกที่จะพัฒนาโดยบริษัท สยามสินธร คือ โครงการหลังสวน วิลเลจ ซึ่งมีพื้นที่การพัฒนา 52 ไร่ แบ่งการพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัย 30 ไร่ และแบ่งเป็นการพัฒนาพื้นที่ทั่วไป ร้านค้า ถนน ทางเดิน 15 ไร่ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้าเดิมสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ ส่วนที่เหลืออีก 7 ไร่ จะพัฒนาเป็นโรงแรม 5 ดาวน์ โดยโครงการที่อยู่อาศัยจะเป็นแบบสัญญาเช่าระยะยาว 30 ปี
ปัจจุบัน ที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินฯ มีอยู่ทั่วประเทศจำนวน 41,000 ไร่ แบ่งออกเป็นที่ดินศักยภาพสูงเพื่อพัฒนาเชิงพาณิชย์ 7% ที่เหลืออีก 93% ของที่ดินทั้งหมด ถูกปล่อยเช่าให้แก่หน่วยงานราชการรัฐวิสาหกิจ และผู้เช่ารายย่อย แบ่งเป็น 40% ให้หน่วยงานราชการและหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และสถาบันต่างๆ เช่า อีก 40% เป็นการเปล่าเช่าแก่รายย่อยหรือประชาชนทั่วไป ส่วนที่เหลือเป็นสถานที่แสดงศิลป์และพิพิธภัณฑ์
ด้านนายยศ เอื้อชูเกียรติ ประธานกรรมการบริษัท สยามสินธร จำกัด กล่าวว่า สยามสินธรมุ่งมั่นพัฒนาโครงการ “หลังสวน วิลเลจ” ตามแนวทางใหม่ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของสำนักงานทรัพย์สินฯ คือ ให้ความสำคัญในการดูแลผู้เช่าเดิมอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม การแบ่งปันประโยชน์ที่เหมาะสมกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งผู้ค้าหาบเร่-แผงลอยในพื้นที่ โครงการนี้พัฒนาขึ้นโดยไม่คำนึงเรื่องประโยชน์เชิงพาณิชย์เป็นที่ตั้ง เน้นให้ความสำคัญกับทัศนียภาพของเมือง คำนึงถึงการแก้ปัญหาการจราจร ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยและผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รวมทั้งได้จัดสรรพื้นที่เพื่อส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณีอันดีงาม ซึ่งการดำเนินการที่ผ่านมาได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากทุกฝ่ายในการร่วมพัฒนาโครงการที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคมและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า สำนักงานทรัพย์สินฯ ได้มีการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ เช่น ตลาดเฉลิมลาภ ย่านประตูน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ชุมชนเสื่อมโทรม และมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมค่อนข้างมาก ซึ่งทางสำนักงานทรัพย์สินฯ ได้ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นพื้นที่ชุมชนที่น่าอยู่ขึ้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการปรับปรุงอาคารพาณิชย์ที่ทรุดโทรมให้ดีขึ้น แม้ว่าการปรับปรุงจะค่อนข้างลำบากเนื่องจากพื้นที่มีขนาดเล็ก ซึ่งสำนักงานทรัพย์สินยังมีการติดตามดูแลผลกระทบของผู้เช่าเดิมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้เช่าเดิมสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ได้รับผลกระทบมาก
ส่วนการปรับปรุงพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินฯ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง มีความคืบหน้าไม่มากนัก เนื่องจากปัญหาด้านโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทำให้การพัฒนาเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยจะไม่ทำเป็นโครงการใหญ่ ซึ่งปัจจุบันได้มีอาคารนิทรรศรัตนโกสินทร์ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว และมีการเริ่มทำโครงการอุทยานเฉลิมพระเกียรติ บริเวณสนามหลวง ทั้งนี้ การปรับปรุงพื้นที่บริเวณถนนราชดำเนินกลางมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ไทย โดยไม่แสวงหารายได้
นายชลาลักษณ์ บุนนาค ประธานเจ้าหน้าที่ บริษัท สยามสินธร จำกัด เปิดเผยว่า “หลังสวน วิลเลจ” เป็นโครงการต้นแบบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กว่า 50 ไร่ บริเวณถนนหลังสวนที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้พักอาศัย พัฒนาอย่างเหมาะสมกับศักยภาพของที่ดิน มีมาตรฐานการออกแบบและการก่อสร้างสูงสุด รวมทั้งมาตรฐานประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม พร้อมพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่เป็นปอดธรรมชาติใจกลางเมือง และที่สำคัญคือการพัฒนาพื้นที่โดยคำนึงถึงชุมชนและสังคมรอบข้าง สามารถใช้พื้นที่สาธารณะร่วมกันอย่างเกื้อกูล อาทิ การจัดเตรียมสถานที่และสาธารณูปโภคให้ผู้ค้ารายย่อยเดิมสามารถกลับมาค้าขายในบริเวณที่จัดไว้ การจัดพื้นที่ตลอดแนวขนานกับถนนหลังสวนเป็นวอล์กกิง สตรีต รวมทั้งหอศิลป์ พิพิธภัณฑ์ ร้านค้า ร้านอาหาร เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ พบปะสังสรรค์ หรือออกกำลังกายอย่างเพลิดเพลิน
ที่มา : ASTVผู้จัดการ 25 ก.ย. 2557
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.