เมื่อวันก่อนมีการเสวนาแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ชาวบ้านดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ โดยมี พ.ท.กิตติศักดิ์ ยิ้มศิริวัฒนะ ผบ.พันปืนใหญ่ที่ 30 ค่ายพ่อขุนผาเมือง จ.เพชรบูรณ์ ในฐานะตัวแทน คสช. เป็นประธาน ร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย เช่น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ ปลัดอำเภอชนแดน ธนาคารเพื่อการเกษตรฯ ธนาคารออมสิน ฯลฯ
มีการสำรวจหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบของชาวนา ทำให้ได้ข้อมูลที่น่าสนใจ ชาวนากำลังวิกฤติ ชาวไร่ชาวนาเกษตรกรใน ต.ดงขุยเกือบ 300 คน ถูกนายทุนเงินกู้นอกระบบยึดโฉนดที่ดินรวมกันกว่า 4,000 ไร่ บางรายถูกยึดเครื่องมือทำนาทำการเกษตร พวกเขากู้ยืมเงินนอกระบบไปลงทุน ซื้อเมล็ดพันธุ์พืช ยาฆ่าแมลง ปุ๋ย ถูกคิดดอกเบี้ยสูงจนไม่มีปัญญาใช้หนี้
นางอุดร แดนเนียม อายุ 52 ปี เล่าว่า ทำนาและทำไร่ข้าวโพด กู้เงินจากนายทุนมา 30,000-40,000 บาท ลงทุนซื้อปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ได้ผลผลิตข้าวโพดปีละ 8-10 เกวียน ข้าวอีก 10 เกวียน ถูกนายทุนเอารถบรรทุกมาขนไปหมดและยังถูกฟ้องร้อง ตอนนี้บ้านก็ไม่มีอยู่ ที่ทำกินก็ไม่มี ต้องไปอาศัยอยู่กับญาติ
น.ส.ภัทรปภา ฟูเฟื่อง อายุ 33 ปี เกษตรกรอีกรายเล่าว่า ซื้อรถไถมาจากสหกรณ์เพื่อการเกษตรได้ 1 ปี หวังจะทำนาทำไร่ ซื้อปุ๋ยและยาฆ่าแมลง ผ่อนส่งกับนายทุนเงินกู้ที่ตลาดดงขุย เพียงปีเดียวนายทุนบอกว่ามีหนี้กว่า 1 ล้านบาท ทำให้ต้องถูกยึดรถไถเครื่องมือทำการเกษตร ต้องไปรับจ้างทำงานที่โรงงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว
พวกเขากำลังรอความช่วยเหลือจาก คสช. และกระทรวงยุติธรรม สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นตัวอย่างของพิษภัยเงินกู้นอกระบบที่คิดดอกเบี้ยโหดเหี้ยม ทำให้ชาวไร่ชาวนาที่หลวมตัวไปกู้เงินหมดโอกาสที่จะปลดหนี้ปลดสิน ไม่มีสิทธิ์ลืมตาอ้าปาก สถานการณ์เช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นที่ ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์เท่านั้น
ชาวไร่ชาวนาทั่วประเทศต้องเจอกับปัญหาหนี้สินจากการกู้เงินนอกระบบ ต้องเสียทั้งบ้านและที่นาทำกิน
“เพลิงมรกต”
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 25 ก.ย. 2557