บสก.เผยนักลงทุนขนเงินซื้อที่ดินเปล่าขยายลงทุนรองรับรถไฟรางคู่ภาคตะวันออก ส่วนภาคอีสานเตรียมพร้อมเปิดเออีซี
นายสมพร มูลศรีแก้ว รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด หรือบสก. เปิดเผยว่า สินทรัพย์รอการขายหรือเอ็นพีเอ โดยเฉพาะที่ดินเปล่ามียอดขายเพิ่มขึ้น หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีแผนที่ขยายรถไฟรางคู่ไปยังภาคตะวันออก ซึ่งใกล้กับท่าเรือทำให้การขนส่งสินค้ามีความสะดวกมากขึ้น และที่ดินที่ขายได้จะเป็นแปลงขนาด 60-70 ไร่ และขนาด 200 ไร่ ราคาขายประมาณ 300-400 ล้านบาทขึ้นกับทำเลเป็นหลัก สำหรับที่ดินที่เชื่อมกับจังหวัดชายแดนยังเป็นที่นิยมของนักลงทุน เพราะต้องการรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 58 ยกเว้นภาคเหนือที่เกิดปัญหาแผ่นดินไหวทำให้ยอดขายชะลอตัวลง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจกับสถานการณ์ว่าจะเกิดขึ้นอีกหรือไม่
“ช่วงต้นปียอมรับว่ายอดขายเอ็นพีเอไม่ได้ดีนัก เพราะเกิดปัญหาการชุมนุมทางการเมืองทำให้นักลงทุนลดการลงทุนลง แต่เมื่อมีคสช.ความเชื่อมั่นดีขึ้นทำให้ตลาดเอ็นพีเอเริ่มกลับมาคึกคัก โดยเฉพาะตลาดในต่างจังหวัดยังนิยมบ้านแนวราบ ทาวเฮ้าส์ และอาคารพาณิชย์ ขณะที่พื้นที่ในกรุงเทพฯ ยังไปได้ดี สำหรับคอนโดมิเนียม ซึ่งในช่วงนี้ยังไม่ปรับราคาขายเอ็นพีเอ เพราะตลาดเพิ่งเริ่มฟื้นตัว แต่เชื่อว่าในปลายปีนี้อาจปรับเพิ่มขึ้น เพราะของที่อยู่ในสต๊อกเหลือน้อย”
สำหรับในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา(ม.ค.-ก.ค.) ยอดขายเอ็นพีมีมูลค่า 4,000 ล้านบาท หรือลดลงประมาณ 10-20% หากเทียบกับปีก่อน แต่ทั้งปีเชื่อว่ายังได้ตามเป้าที่วางไว้คือ 8,000 ล้านบาท เพราะตลาดยังเติบโตดีในช่วงที่เหลือของปี ส่วนความคืบหน้าการซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลนั้น ได้ซื้อไปแล้ว 5,000-6,000 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 10,500 ล้านบาท และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงิน 2-3 ราย คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
ทั้งนี้บสก.ได้นำทรัพย์เด่นทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 300 รายการ มูลค่ากว่า 3,800 ล้านบาท เช่น ที่ดินเปล่า บ้านเดี่ยว บ้านจัดสรร อาคารชุดที่พักอาศัย โรงงาน มาจำหน่ายให้กับลูกค้าในงานเอ็นพีแอลแกรนด์เซลล์ตั้งแต่วันนี้-24 ส.ค.นี้ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมียอดขายทรัพย์ในงานนี้ 250 ล้านบาท นอกจากนี้ได้ร่วมกับสถาบันการเงินจัดสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ซื้อทรัพย์กับบริษัทฯ โดยธนาคารออมสินเสนอให้ดอกเบี้ยคงที่ 4.5 % นาน 3 ปี ธนาคารทหารไทยคิดดอกเบี้ย 0% นาน 2 เดือน ฟรีค่าธรรมเนียมสำรวจหลักทรัพย์ และค่าประกันอัคคีภัย ขณะที่ธนาคารทิสโก้เสนอดอกเบี้ยคงที่นานสูงสุด 7 ปี กู้ได้สูงถึง 95%
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 21 ส.ค. 2557