สภาเกษตรแห่งชาติ สั่งลุยจัดตั้งและวางแผนงาน 5 กลุ่มยุทธศาสตร์ ยางพารา ลำไย ที่ดินทำกิน และงบประมาณ เล็งอนาคตตั้งให้ครอบคลุมกลุ่มพืชและประมงทุกชนิด หวังเป็นตัวเชื่อมรัฐบาลแก้ปัญหาบนโต๊ะเจรจา ลดม็อบเดินขบวน ชี้จะเป็นจุดเปลี่ยนภาคเกษตรไทยครั้งใหญ่ในอนาคต
ด้าน "อุบลศักดิ์" ฟิตเตรียมซ้อมใหญ่คณะทำงานติดตามรับจำนำข้าวปี 2555/56 ตรวจสอบข้อดีข้อเสียตั้งแต่รับจำนำยันระบายข้าว ก่อนทำแผนแม่บทเสนอรัฐบาล
นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงการตั้งกลุ่มยุทธศาสตร์เพื่อแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรได้ทันท่วงที ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่สภาเกษตรกรแห่งชาติมีสมาชิกครบถ้วนได้แก่ 1. สมาชิกโดยตำแหน่ง คือสมาชิกที่ได้รับการคัดเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรระดับหมู่บ้าน ผู้แทนเกษตรกรระดับตำบล อำเภอ จนกระทั่งสู่ผู้แทนระดับจังหวัด มีทั้งหมด 77 จังหวัด 2.สมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิ 7 คน ด้านพืช ได้แก่ นายบุญส่ง นับทอง นายเจริญศักดิ์ โรจนฤทธิ์พิเชษฐ์ ด้านสัตว์ ได้แก่ นางเยาวมาลย์ ค้าเจริญ นายมงคลัตถ์ พุกะนัดด์ ด้านประมง ได้แก่ นายประสาร เพชรมอญ นายมงคล สุขเจริญคณา ด้านเกษตรกรรมอื่นๆ ได้แก่ นายศิริชัย ออสุวรรณ
ล่าสุดได้เริ่มดำเนินการแต่งตั้งกลุ่มยุทธศาสตร์สินค้าเกษตร แล้ว 5 กลุ่ม ได้แก่ 1.คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/56 มีนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม เป็นประธาน 2.คณะกรรมการศึกษาสภาพปัญหาและวิธีการแก้ไขปัญหายางพารา มีนายประทีป เทพพนม เป็นประธาน 3.คณะกรรมการศึกษาสภาพปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหาลำไย มีนายสมหมาย คำมาสาร เป็นประธาน 4.คณะกรรมการศึกษาสภาพปัญหาและวิธีแก้ไขปัญหาดินและที่ดินทำกิน มีนายคงฤทธิ์ บัวบุญ เป็นประธาน และ 5 คณะทำงานกรรมการยุทธศาสตร์และการงบประมาณสภาเกษตรกรแห่งชาติ ปี 2556-2559 มีอำนวย ปะติเส เป็นประธาน
"ในอนาคตจะตั้งคณะทำงานให้ครอบคลุมพืช ประมง รายชนิดที่สำคัญ อาทิ มันสำปะหลัง กุ้ง ไก่ และอื่นๆ เพื่อเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่างเกษตรกรกับรัฐบาล ช่วยแก้ปัญหาลดความขัดแย้ง ไกล่เกลี่ย พยายามให้ม็อบแต่ละกลุ่มเจรจากันบนโต๊ะมากกว่าปิดถนน อาทิ มะพร้าว ยางพารา และปาล์มน้ำมัน เป็นต้น เพราะหน้าที่ของสภาเกษตรกรแห่งชาติคือหน่วยงานที่เปรียบเสมือนตัวแทนของเกษตรกรจากทุกจังหวัด มีหน้าที่ส่งเสริมเกษตรกรไทยในการวางงาน และรักษาผลประโยชน์ร่วมกันของเกษตรกรเพื่อให้ทุกกลุ่มได้รับผลประโยชน์สูงสุด รวมถึงการสนับสนุนสิทธิ และการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในการกำหนดนโยบายและวางแผนการพัฒนาเกษตรกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาและความมั่นคงในอาชีพเกษตรกร พร้อมกับเพิ่มศักยภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น"
ด้านนายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ประธานคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 2555/56 กล่าวถึงแนวการทำงานหลังจากที่ได้รับมอบหมายจากสภาเกษตรกรแห่งชาติว่า ในวันที่ 16-18 มกราคม 2556 นี้จะมีการประชุมซ้อมใหญ่ทิศทางกับคณะอนุกรรมการที่รับการแต่งตั้งแล้วจะเชิญหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำ อาทิ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรมส่งเสริมการเกษตร เป็นต้น ให้เข้ามาชี้แจงเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้น หลังจากนั้นจะเข้าไปพบกรมการค้าต่างประเทศ กรมการค้าภายใน และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ถึงกระบวนการวิธีการขายข้าว เป็นต้น
"ทางทีมงานจะตรวจไปถึงการทำงานของ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และ องค์การคลังสินค้า (อคส.) ที่อยู่ในพื้นที่การรับข้าวจากเกษตรกรสู่โรงสี และจากโรงสี สู่โกดังเก็บข้าว รวมถึงกระบวนตรวจรับข้าวเข้าโกดังกลาง โดยอนุกรรมการระดับจังหวัด จะให้สภาเกษตรกรประจำจังหวัดต่างๆ เป็นประธานอนุระดับจังหวัดเพื่อทำงานควบคู่ แล้วจะมาสรุปผลทำแผนแม่บทผลดี-ผลเสียโครงการรับจำนำข้าวเพื่อนำเสนอรัฐบาลต่อไป อย่างไรก็ดีจากการตั้งข้อสังเกตในโครงการประกันรายได้เกษตรกรในรัฐบาลชุดก่อนมียอดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรสูงมาก แต่พอเปลี่ยนเป็นโครงการรับจำนำข้าว ยอดการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีน้อย จึงสรุปเบื้องต้นว่าทั้งสองรูปแบบมีการโกงมหาศาลไม่แพ้กัน"
อนึ่ง เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2555 นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ (ปัจจุบันรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) ได้ส่งมอบภารกิจให้สภาเกษตรกรแห่งชาติ ดำเนินไปตามบทบาทและหน้าที่มีสถานะสมบูรณ์ตามกฎหมาย (ประกาศลงราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2555) และจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ในวันที่ 22 มีนาคม 2559
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,808 วันที่ 10 - 12 มกราคม พ.ศ. 2556
ฐานเศรษฐกิจ 9 ม.ค. 56
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.