สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์ คัดค้านการแจกป่าและฟอกที่ดินเพื่อเอื้อประโยชน์นายทุนโดยใช้ราษฎรที่ยากจนบังหน้าของกรมป่าไม้ จี้ทบทวนนโยบาย ขู่ร่วมกับผู้ที่มีส่วนได้เสีย-นักอนุรักษ์ทั่วประเทศฟ้องร้อง เพิกถอนคำสั่งโดยเร็วที่สุด
วันนี้ (7 พ.ย.55) นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่า สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนออกแถลงการณ์ คัดค้านการแจกป่าและฟอกที่ดินเพื่อเอื้อประโยชน์นายทุนโดยใช้ราษฎรที่ยากจนบังหน้าของกรมป่าไม้ จากกรณีที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ มีนโยบายแจกใบรับรองสิทธิ์ทำกิน (สทก.) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติทั่วประเทศจำนวน 2.5 ล้านไร่ ให้กับราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนเสื่อมโทรมที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ทำกิน โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือคนจนให้มีที่ทำกินไม่ให้ไปบุกรุกป่าเพิ่มขึ้น
สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนในฐานะองค์กรเอกชนสาธารณะประโยชน์ด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ที่มีวัตถุประสงค์ในการปกป้องพื้นที่ป่าไม้และรักษาทรัพยากรของชาติทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอคัดค้านนโยบายและพฤติการณ์ดังกล่าวของกระทรวงทรัพย์ฯ และกรมป่าไม้ โดยแสดงความเห็นว่านโยบายดังกล่าวเป็นเพียงเล่ห์ทางการเมืองของนักการเมืองที่รวมหัวกับข้าราชการในการฟอกที่ดินที่ผิดกฎหมาย ให้กลายเป็นที่ดินที่ถูกกฎหมาย ยกเว้นความผิดให้กับผู้ที่บุกรุกป่า เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน นักการเมือง และหรือหัวคะแนนของนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง โดยเอาความยากจนของชาวบ้านมาเป็นตัวประกันเท่านั้น
“นโยบายและพฤติการณ์ดังกล่าว สมาคมฯ ขอประณามและขอต่อต้าน 100% เพราะไม่ใช่ทางออกและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ทำกินของเกษตรกรหรือราษฎรที่ไม่มีที่ทำกินอย่างยั่งยืน” แถลงการณ์ระบุ
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ในอดีตเคยมีนโยบายโฉนดชุมชนที่ชุมชนยอมรับโดยให้สิทธิในเอกสารสิทธิที่ทำกินของชาวบ้านในลักษณะของชุมชนเป็นเจ้าของร่วมกัน ไม่ได้แยกเป็นปัจเจกชน ซึ่งไม่สามารถนำไปจำหน่ายจ่ายโอนให้กับนายทุนหรือผู้ใดได้ ยกเว้นการตกทอดแก่ทายาทหรือมรดกเท่านั้น แต่การที่กระทรวงทรัพย์ฯ และกรมป่าไม้นำที่ป่าสงวนที่อ้างว่าเสื่อมโทรมหรือถูกบุกรุกแล้วมาแจกให้กับนายทุนเป็นรายบุคคล โดยใช้ราษฎรที่ยากจนเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะนำไปทำรีสอร์ทหรือธุรกิจการค้าได้ ย่อมผิดต่อหลักการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และจะนำไปสู่การทำลายป่าปกติให้กลายเป็นป่าเสื่อมโทรมเพิ่มมากขึ้น เพื่อรอนโยบายประชานิยมดังกล่าว และไม่มีหลักประกันอันใดที่จะยืนยันได้ว่าที่ดินดังกล่าวเมื่อมอบให้กับชาวบ้านแล้ว จะไม่ถูกโอนซื้อขายสิทธิไปให้นายทุน หรือนักการเมือง ฯลฯ ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 66 ประกอบมาตรา 85 มาตรา 87 โดยชัดแจ้ง
นอกจากนั้น กระทรวงทรัพย์ฯ และกรมป่าไม้ ยังได้กระทำความผิดเช้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 อีกด้วย เพราะปล่อยให้มีการบุกรุกที่ป่าสงวนของชาติ จนกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม โดยการออกมายอมรับในข้อเท็จจริงดังกล่าวต่อสาธารณะ เพราะความไร้ประสิทธิภาพของตน ที่สำคัญ จากข้อมูลการแจกที่ดินดังกล่าว ยังเอนเอียงไปแจกแต่เฉพาะในพื้นที่หาเสียงของรัฐมนตรีเจ้ากระทรวง ย่อมชี้ชัดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ อันเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 30 โดยชัดแจ้ง
นายศรีสุวรรณ กล่าวด้วยว่า หากกระทรวงทรัพย์ฯ และกรมป่าไม้ ไม่ทบทวนนโยบายหรือการดำเนินการดังกล่าว สมาคมฯ จะร่วมกับผู้ที่มีส่วนได้เสียหรือนักอนุรักษ์ทั่วประเทศในการฟ้องร้อง เพิกถอนคำสั่งหรือการกระทำดังกล่าวโดยเร็วที่สุด ต่อไป
ปรชาไท 8 พ.ย. 55
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.