กรมป่าไม้แจกป่าเสื่อมโทรม 2.5 ล้านไร่ นำร่องก่อน 1.5 แสนไร่ให้แล้วเสร็จภายในปีนี้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ให้สิทธิ์ขาดทำอะไรก็ได้ สร้างรีสอร์ทก็ไม่ห้าม เว้นเปลี่ยนแปลงสภาพป่า อ้างมีข้อมูลพร้อมแจกยืนยันคุมเปลี่ยนมือได้...
เมื่อวันที่ 5 พ.ย.ที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม นายบุญชอบ สุทธิมนัสวงษ์ อธิบดีกรมปาไม้ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนโยบายชะลอการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ของรัฐบาล ว่า เรื่องนี้ไม่ได้หมายถึงการชะลอไม่จับกุมดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุกป่าซึ่ง ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย เพราะเรื่องการชะลอดำเนินคดีนั้นมีอยู่แล้วตามมติ ครม. 30 มิ.ย. 2541 เพื่อให้มีการพิสูจน์คนอยู่มาก่อนหรือหลังประกาศเป็นเขตอนุรักษ์ ซึ่งกรมป่าไม้ได้สำรวจข้อมูลตามมติ ครม. ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว แต่ปัญหาคือขณะนี้ ยังไม่ทราบว่าชาวบ้านที่อยู่ในเกณฑ์ของมติ ครม. 30 มิ.ย. 41 นั้น รัฐบาลจะต้องมีนโยบายหรือมติที่แท้จริงในการจัดการอย่างไร หากเอาคนเหล่านั้นออกมาจากป่าแล้วจะให้ไปอยู่ที่ไหน อย่างไรก็ตามในแนวคิดของตน หลังจากการใช้มติ ครม. 30 มิ.ย. 41 ยังคงมีการบุกรุกพื้นที่ป่าอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งตนไม่กล้าประเมินตัวเลขว่ามีจำนวนเท่าไร ซึ่งส่วนนี้จะต้องมีการชะลอการจับกุมและสำรวจตัวเลขกันใหม่ และกันออกมาจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือป่าอนุรักษ์อีกครั้ง เพื่อจัดทำแนวเขตป่าให้ชัดเจนว่าขณะนี้เหลือพื้นที่อยู่จำนวนเท่าใด ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเองที่ไปเรียกรับผลประโยชน์จากชาวบ้าน เพื่อไม่ให้เข้าไปจับกุม โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจอย่างเร่งด่วนคาดว่าจะเห็นภาพที่ชัดเจนในอีก 3 เดือนข้างหน้า จากนั้นจึงจะมาพูดกันว่าจะดำเนินการอย่างไรกับประชาชนที่บุกรุกป่า
อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ตนคิดว่าแนวทางสำหรับแก้ปัญหาการบุกรุกป่าไม้และที่ทำกินที่ดี สุดคือการให้เอกสารสิทธิ์ทำกิน(สทก.) ในเขตป่าโดยเฉพาะป่าสงวนแห่งชาติที่เสื่อมโทรมที่ถูกบุกรุกจนเสื่อมสภาพ และมีประชาชนเข้าไปอยู่มาก่อนแล้ว โดยขอให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่า เช่น ผู้ได้รับใบรับรอง สทก.จากกรมป่าไม้ต้องปลูกป่าในพื้นที่ตามข้อกำหนดของกรมป่าไม้ ตนคิดว่าการให้ใบรับรอง สทก. ดีกว่าการแจก สปก. ที่ยกป่าให้หน่วยงานอื่นไปดำเนินการทั้งหมด เหมือนในอดีตที่ผ่านมาแล้วไม่สามารถควบคุมได้ว่าพื้นที่ใดเป็นป่าเสื่อมโทรม หรือป่าต้นน้ำหรือไม่ ซึ่งกรมป่าไม้เคยดำเนินการมาแล้ว แต่มาหยุดในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา
นายบุญชอบ กล่าวอีกว่า การแจกเอกสารสิทธิทำกิน(สทก.) ตนได้นำเสนอต่อนายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ แล้ว ซึ่งนายปรีชาก็เห็นด้วย และตั้งเป้าอนุมัติที่ดิน สทก.2.5 ล้านไร่ทั่วประเทศ เพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน โดยภายใน 1-2 เดือนนี้หรือก่อนช่วงปีใหม่จะอนุมัติให้ได้ 1.5 หมื่นราย หรือประมาณ 1.5 แสนไร่ จากนั้นในปี 2556 ตั้งเป้าจะอนุมัติที่ดิน สทก. ให้ได้ปีละ 1 ล้านไร่จนครบทั้งหมด ซึ่งข้อมูลผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ สทก. กรมป่าไม้มีพร้อมแล้ว เพราะเป็นรายเดิมที่อยู่ในป่ามาก่อน แต่ไม่มีการต่ออายุใบรับรองสิทธิ์ สทก. ซึ่งต้องต่ออายุ 5 ปีต่อครั้ง เพราะนโยบายของการเมืองในช่วงที่ผ่านมาไม่มีความต่อเนื่อง และที่ผ่านมาคนไปให้ความสนใจในเรื่องการบังคับใช้กฎหมายมากกว่า เรื่องนี้ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบของ ครม.เพราะเป็นอำนาจของรัฐมนตรี ทั้งนี้ สทก.ห้ามมีการเปลี่ยนมือ แต่เป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานได้
เมื่อถามถึงการใช้ประโยชน์ในที่ดิน สทก. ต้องทำการเกษตรอย่างเดียวหรือไม่ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องทำการเกษตรอย่างเดียว เพราะคำว่าสิทธิ์ทำกินหมายความจะทำอะไรก็ได้ ที่ไม่ทำให้สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง เมื่อถามว่าสามารถนำไปสร้างรีสอร์ทได้หรือไม่ นายบุญชอบ กล่าวว่า การสร้างรีสอร์ท เราก็ต้องไปตีความว่ามันกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ถ้ากลมกลืนกับสภาพแวดล้อมก็สามารถทำได้ ทั้งนี้การให้ใบรับรองสิทธิ์ สทก. จะพิจารณาดำเนินการในป่าสงวนฯ โซนอีหรือโซนเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่ก็สามารถดำเนินการในโซนอื่นได้ถ้ามีสภาพเสื่อมโทรมมากและไม่ใช่แหล่ง ต้นน้ำลำธาร เมื่อถามว่าจะเริ่มแจก สทก.ในพื้นที่ไหนก่อน นายบุญชอบ กล่าวว่า ต้องมีการหารือกับนายปรีชา อีกครั้งหนึ่งก่อนเพื่อกำหนดพื้นที่นำร่อง
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวว่า กรมป่าไม้ได้ทำเรื่องการแจก สทก.มาถึงตน ซึ่งเบื้องต้นเห็นด้วยกับแนวคิดดังกล่าวว่าน่าจะเกิดประโยชน์กับประชาชน เพราะที่ผ่านมา กรมป่าไม้เคยมีนโยบายแจก สทก.มาแล้ว แต่หยุดไป ดังนั้นจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาหลักเกณฑ์การแจกต่อไปในเร็วๆ นี้
ด้านนายสมนึก พฤกษ์นวล คณะกรรมการเครือข่ายปฎิรูปที่ดินแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไม่รู้ว่ากรมป่าไม้ จะจัดที่ดินส่วนไหนมาให้มาให้สิทธิ์ สทก. ตนคิดว่าแนวคิดนี้ไม่สามารถป้องกันการเปลี่ยนมือสิทธิ์ สทก. จากชาวบ้านไปถึงนายทุนได้ เพราะการออก สทก.เป็นการออกเอกสารสิทธิ์เฉพาะบุคคล ซึ่งไม่ได้ออกเหมือนโฉนดชุมชนที่ให้ชุมชนหรือชาวบ้าน ช่วยกันดูแลการถือครองที่ดินอย่างเป็นระบบ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดแม้แต่โฉนดที่ดินที่อยู่ในมือชาวนาวันนี้ก็เปลี่ยนมือ ไปอยู่กับธนาคารกับกลุ่มทุนหมดแล้ว หรือกรณีในช่วงปี 2518 กรมป่าไม้ก็มีการออก สทก. ในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ซึ่งเป็นเขตป่าสงวนฯ ชาวบ้านทำกินโดยการปลูกปาล์ม และยางพารา แต่ปัจจุบันใบรับรองสิทธิ์ สทก. ก็เปลี่ยนมือไปอยู่กับนายทุนหมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สทก. คือ “การให้สิทธ์ทำกิน” ที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะออกเป็นหนังสืออนุญาตให้ ประชาชนทำกินชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่มีความจำเป็นการในการครองชีพให้สามารถเข้าทำกินในเขตป่าสงวนแห่งชาติได้และโดยมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ทั้งนี้ ลักษณะของพื้นที่ สทก.คือ 1.จะต้องเป็นป่าสงวนแห่งชาติที่มีลักษณะเป็นป่าเสื่อมโทรมตามที่คณะรัฐมนตรี กำหนดและ 2.เป็นพื้นที่ที่ได้ทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยอยู่แล้ว
ไทยรัฐ 6-11-55
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.