เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ชี้ปัญหามะพร้าวราคาตก เหตุรัฐบาล “เปิดเสรีนำเข้า” -ไม่มีการตรวจสอบการนำเข้า รุกยื่นเรื่องค้านถึงหน้า ก.พาณิชย์ ก่อนไปต่อ ก.เกษตรฯ พร้อมเรียกร้องให้มีการกักโรคในการขนส่ง
วันนี้ (13 ก.ย.55) เวลา 9:00 น.ที่หน้ากระทรวงพาณิชย์ เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 10 คันรถบัส เดินทางมายื่นเรื่องคัดค้านการนำเข้ามะพร้าว หลังจากนั้นในช่วงบ่ายได้เดินทางไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อยื่นหนังสือขอให้ยกเลิกการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศและแก้ไขเยียวยา พร้อมเรียกร้องให้มีการกักโรคในการขนส่งมะพร้าว เนื่องจากปัญหาโรคระบาดของมะพร้าวที่เกิดจากมะพร้าวที่นำเข้าจากต่างประเทศ
เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุในแถลงการณ์ว่า ขณะนี้เกษตรกรชาวสวนมะพร้าว โดยเฉพาะใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรผู้ปลูกมะพร้าวซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของจังหวัด สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวมาโดยตลอด ขณะนี้มะพร้าวมีราคาตกต่ำเป็นอย่างมาก บางแห่งไม่สามารถขายผลมะพร้าวได้ และบางแห่งรับซื้อผลมะพร้าวในจำนวนจำกัด และยังกดราคาผลผลิตทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ไม่สามารถแบกรับค่าครองชีพที่สูงขึ้นในขณะนี้ได้
สาเหตุสืบเนื่องมาจากการที่รัฐบาลเปิดเสรีให้มีการนำเข้ามะพร้าวจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ทำให้ราคามะพร้าวในขณะนี้เหลือผลละไม่เกิน 3 บาท และอีกสาเหตุหนึ่งคือการนำเข้ามะพร้าวไม่มีการตรวจสอบผลจากต่างประเทศ ไม่มีการตรวจสอบจำนวนที่นำเข้าที่แน่นอน ทั้งไม่มีการตรวจสอบสารพิษที่ตกค้าง ไม่มีการกักกันโรคและแมลงศัตรูพืชที่ติดมากับผลมะพร้าวที่นำเข้ามาในประเทศไทย ทำให้เกิดโรคระบาดของแมลงที่ทำลายต้นมะพร้าวในเขต จ.ประจวบคีรีขันธ์อย่างรุนแรง
ทั้งนี้ เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีข้อเรียกร้องดังนี้ 1.ให้ยกเลิกการนำเข้าผลมะพร้าวจากต่างประเทศ ทุกประเทศ 2.ให้ยกเลิกการลงนามข้อตกลง การเปิดเสรีการนำเข้า มะพร้าวผล มะพร้าวแห้ง และน้ำมันมะพร้าวจากต่างประเทศ 3.ให้มีการกวดขันการลักลอบนำเข้ามะพร้าวผลจากต่างประเทศ และเอาผิด กับหน่วยงานที่รู้เห็นเป็นใจ ปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้า
4.ควรจัดเก็บภาษีนำเข้ามะพร้าวผล มะพร้าวแห้ง น้ำมันมะพร้าว เพราะมะพร้าวในประเทศมีเพียงพอต่อการบริโภค และแปรรูป เพื่อการส่งออก ไม่ต้องพึ่งการนำเข้า 5.ให้มีมาตรการช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนในระยะยาวอย่างยั่งยืน โดยการสนับสนุนงบประมาณให้แก่กลุ่มเกษตรกร สามารถนำมะพร้าวมาแปรรูป และเป็นกลไกการจัดการไม่ให้มะพร้าวล้นตลาด
6.การแทรกแซง ราคามะพร้าวแห้งในกิโลกรัมละ 21 บาท ไม่มีการตรวจสอบ ตัวเกษตรกรที่แน่นอน ทำให้การช่วยเหลือเกษตรกรเป็นปัญหา ขายผลผลิตในราคากิโลกรัมละ 21 บาทไม่ได้ เป็นการแก้ไขไม่ถูกจุด ควรมีการสำรวจขึ้นทะเบียนเกษตรกรใหม่ทั้งระบบ เพราะข้อมูลเก่า เกษตรกรได้ขายที่ดินและเปลี่ยนอาชีพ เอาที่ดินไปทำอย่างอื่นหมดแล้ว เหลือแต่รายชื่อที่ขึ้นทะเบียนไว้ และไม่ได้แจ้งเลิกทำให้มีการสวมสิทธิ์ เกิดการทุจริต อย่างเช่นในหลายพื้นที่
7.ให้รัฐบาลช่วยเหลือเกษตรกรให้ขายมะพร้าวขาว โดยการรวมกลุ่มแล้วขายกับโรงงานแปรรูปกะทิกล่อง หรือโรงงานอื่นๆ 8.ให้เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าว จ.ประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดอื่นๆ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ หรืออนุญาตให้มีการนำเข้าก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้กระทบกับอาชีพของเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวในประเทศไทยต่อไป
“เพื่อให้เป็นไปตามยุทธศาสตร์หรือแผนการพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฉบับใหม่ที่เน้นสนับสนุนให้มะพร้าวเป็นพืชเศรษฐกิจที่หนึ่งของโลก จำเป็นที่ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องให้ความสำคัญต่อราคาผลผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะมะพร้าว ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดเอง และสนับสนุนให้เกษตรกรสามารถมีชีวิตได้อย่างปกติสุขได้” แถลงการณ์เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนมะพร้าวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุ
ประชาไท วันที่ 13 ก.ย. 55
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.