อัพเดท ประกันรายได้ข้าว พ่วง “เงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท มาตรการคู่ขนาน 1.5 แสนล้าน ธ.ก.ส. แจ้งข่าว วันที่ 4 พ.ย. นายกรัฐมนตรีเล็งขยายเพดานหนี้ เพื่อจ่ายชดเชยโครงการประกันรายได้เกษตรกร ปีที่ 4 ลงพื้นที่สำรวจราคาข้าวหอมมะลิ กข15 ชาวนาพอใจ ขายเกี่ยวสด ราคา 1.3 หมื่นบาท
นายสุเทพ คงมาก กรรมการในคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า อยู่ระหว่างการลงพื้นสำรวจข้าวหอมมะลิ พันธุ์ กข15 และ 105 ทั้งนาขั้นบันได นาพื้นที่ลุ่ม และนาดอน ที่จังหวัดอุบลราชธานีก็ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำท่วม คาดการณ์ผลผลิตข้าวจะดีกว่าปีที่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่กลุ่มนาข้าวอินทรีย์ ไม่ใช่เคมีเลย ผลผลิตงอกงาม
“ล่าสุดสอบถามไปยัง ธ.ก.ส. ได้แจ้งว่า วันที่ 4 พ.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะประชุมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน การคลังของรัฐ เพื่อจะขยายกรอบอัตรายอดคงค้างภาระหนี้ที่ภาครัฐต้องชดเชยตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังภาครัฐ มาตรา 28 เพื่อเปิดวงเงินการสนับสนุนโครงการประกันรายได้พืชผลเกษตร โดยเฉพาะประกันรายได้ข้าว รวมทั้งพืช อีก 4 ชนิด ไม่ว่าจะประกันรายได้มันสำปะหลัง ประกันรายได้ปาล์มน้ำมัน ประกันรายได้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และประกันรายได้ยางพารา”
นายสุเทพ กล่าวว่า ราคาข้าวเปลือกวันนี้โรงสีซื้อที่ชาวนาพอใจ ข้าวสด ที่เขมราฐ ซื้อกันกิโลกรัมละ 13,000 บาท/ตัน กข15 แต่ถ้าโครงการประกันรายได้หาก ครม.ประกาศออกมาเร็ว ไม่ว่าจะเป็นโครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี (จำนำยุ้งฉาง) ในส่วนของโรงสี และสถาบันเกษตรกร จะได้เก็บข้าวไม่ปล่อยออกสู่ตลาดทีเดียว หากวันที่ 4 พ.ย. นี้บอร์ดทางการเงินอนุมัติแล้วก็คาดว่าจะเข้า ครม. ในสัปดาห์ถัดไป
“สาเหตุที่จะต้องเร่งรัดให้จ่ายเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับโรงสี ชาวนา เก็บข้าว สู่โครงการจำนำยุ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “เงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท” หรือโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 ให้รัฐบาลให้เร่งจ่ายเพราะวันนี้เกษตรกรเดือดร้อน เพราะถ้ามีเงินในส่วนนี้ก็สามารถที่จะเก็บข้าวไว้กับมือได้ไม่เทขายออกทีเดียว ไม่ให้ข้าวไปล้นตลาด จะกลายเป็นโอกาสของพ่อค้า”
ที่มา คอลัมน์การค้า การเกษตร ,ฐานเศรษฐกิจ/ 31 ตุลาคม 2565