กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เงียบหายไปนาน หลังเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปทั่วโลกไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทยก็อยู่ในภาวะที่ยากลำบาก มีแรงงานว่างงานไม่มีรายได้มายังชีพ ขณะที่ครอบครัวเกษตรกรไทยก็ได้รับผลกระทบจากญาติพี่น้องถูกเลิกจ้าง เช่นกัน
ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวจากกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร แล้ว จากการเปิดใจให้สัมภาษณ์ของ นายสมยศ ภิราญคำ รองเลขาธิการ รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (กฟก.) เปิดเผยว่า สำหรับเกษตรกรสมาชิก ที่มีความประสงค์ขอขึ้นทะเบียนหนี้เกษตรกร สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดทั่วประเทศได้ทุกวันในวันและเวลาทำการ
ทั้งนี้ การเปิดรับขึ้นทะเบียนหนี้ได้ตลอดทั้งปี ถือเป็นอีกหนึ่งการทำงานเพื่อเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูฯ จากเดิมที่กำหนดเปิดรับขึ้นทะเบียนเพียงช่วงเวลา 3-6 เดือนในแต่ละปี แต่เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ที่นำมาซึ่งประโยชน์ในการส่งเสริม สนับสนุนและรักษาอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกร รวมถึงการรักษาพื้นที่ทำกินให้เกษตรกร กองทุนฟื้นฟูฯ จึงได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การขึ้นทะเบียนหนี้ ได้ทุกวันทำการ
“ ต้องขอชี้แจงว่า การขึ้นทะเบียนหนี้กับ กฟก. มีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก ขอเพียงมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนด สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานสาขาจังหวัดที่เกษตรกรมีที่อยู่อาศัย โดยเอกสารสำคัญที่ใช้ยื่นประกอบพร้อมแบบฟอร์มขอขึ้นทะเบียน เช่น หลักฐานการเป็นหนี้ สัญญากู้ยืมเงิน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาบัตรประชาชน
แต่หากเป็นเกษตรกรที่ถูกฟ้องร้องบังคับคดี จำเป็นต้องแนบหลักฐานการฟ้องด้วย โดยยื่นเอกสารทั้งหมดพร้อมแบบฟอร์มกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาขา จากนั้นสาขาจะรวบรวมรายชื่อเสนอคณะอนุกรรมการฯ จังหวัดพิจารณาอนุมัติ ทั้งหมดนี้คือขั้นตอนที่ต้องดำเนินการ” รักษาการในตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร กล่าว
นายสมยศ กล่าวต่อไปว่า การพิจารณาว่าเกษตรกรท่านใด จะได้รับการขึ้นทะเบียนหนี้หรือไม่นั้น สิ่งสำคัญคือ ต้องเป็นเกษตรกร ตามนิยมคือ มีรายได้มาจากการประกอบอาชีพเกษตร มากกว่าร้อยละ 50
และที่สำคัญอีกประการ คือ ต้องเป็นหนี้ในระบบ เช่น เป็นหนี้ธนาคาร หนี้สหกรณ์ ที่นำไปประกอบอาชีพเกษตรกรรม ดังนั้นถ้าข้อมูลและเอกสารถูกต้องครบถ้วนตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ รับรองได้ว่าเกษตรกรต้องได้รับการช่วยเหลือทุกราย" นายสมยศ กล่าว
“ ปัจจุบันมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนหนี้ จำนวน 508,942 ราย มูลค่าหนี้รวม 104,226 ล้านบาท ซึ่งกองทุนฟื้นฟูฯ ได้ดำเนินการจัดการหนี้ หรือชำระหนี้แทนให้เกษตรกรแล้ว เป็นจำนวนถึง 30,000 ราย เป็นเงินเกือบ 7,000 ล้านบาท ส่วนกรณีของหนี้ NPA หรือที่เรียกว่า ทรัพย์สินที่ถูกขายทอดตลาด เป็นหนี้อีกประเภทหนึ่งที่กองทุนฟื้นฟูฯกำลังดำเนินการช่วยเหลือด้วยการขอสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลเพื่อดำเนินการซื้อทรัพย์สินคืนให้พี่น้องเกษตรกร และมีผลดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการซื้อทรัพย์คืนเกษตรกร ไปแล้ว 500 กว่าราย เป็นเงินกว่า 300 ล้าน” นายสมยศ กล่าว
นายสมยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การแก้ไขหนี้สินของเกษตรกรสมาชิกในอนาคต กองทุนฟื้นฟูฯ ได้มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องทั้งในปีงบประมาณ 2564 และที่จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2565 เช่น การแก้ไขกฏหมายผ่านทางรัฐสภา ซึ่งล่าสุดคือ การแก้ไขพระราชบัญญัติกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2563
ที่มา : คมชัดลึก วันที่ 17 มิ.ย. 2564
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.