ป่าไม้ลั่นไม่ต่อสัมปทานเช่าป่าหมดอายุ5จว.ใต้ ดันขึ้นป่าชุมชน
กรมป่าไม้เลิกต่อสัญญา45บริษัทเอกชนเช่าพื้นที่ป่าไม้ปลูกปาล์ม-ยางพารา5จว.ใต้พื้นที่หมดอายุกว่า1.4แสนไร่ ลั่นไม่ต่ออายุ ลุยจัดตั้งป่าชุมชน
กรณีปัญหาความขัดแย้งระหว่างเอกชน และชาวบ้านที่เข้ายึดพื้นที่สวนปาล์มที่หมดอายุการอนุญาตเช่าจากกรมป่าไม้ในจ.กระบี่ ซึ่งล่าสุด นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยผลการตรวจสอบแปลงสัมปทานของเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามมาตรา 16 ของพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ จ.สุราษฏร์ธานี กระบี่ ตรัง ชุมพร และพังงา ซึ่งส่วนใหญ่ทำสวนปาล์มน้ำมัน และปลูกยางพาราโดยได้รับการอนุญาตมีอายุตั้งแต่ 5 ปีและไม่เกิน 30 ปี มีทั้งสิ้น 45 รายรวมเนื้อที่เช่า 289,997 ไร่ 3 งาน โดยในจำนวนนี้พบว่า 18 แปลงที่หมดอายุเช่าแล้วทั้งหมด 146,480 ไร่ แบ่งเป็น ในจ.สุราษฎร์ธานี 6 แปลงรวมพื้นที่ 61,018 ไร่ จ.ชุมพร 2 แปลงรวมพื้นที 22,138 ไร่ และจ.กระบี่10 แปลงรวมพื้นที่ 63,324 ไร่ ขณะที่ยังมีพื้นที่ทับซ้อนกับที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ 5 แปลง และอยู่ระหว่างการขออนุญาตใหม่ 4 ราย ส่วนอีก 21 รายยังไม่หมดอายุ รวมพื้นที่ 111,887 ไร่
นายสุวิทย์ กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ จ.กระบี่ พบว่ามีเอกชนขอเช่าพื้นที่ป่าสงวนมากที่สุด 14 ราย รวมพื้นที่ 195,990 ไร่ โดยพบว่าในจำนวนนี้ 10 รายรวมเนื้อที่ราว 63,324 ไร่ ได้หมดอายุการอนุญาตจากกรมป่าไม้มาเป็น 10 ปีแล้ว ทำให้ชาวบ้านที่ไม่มีทีดินทำกินได้เข้ายึดเข้าทำประโยชน์ จนเกิดข้อพิพาทกับเจ้าของแปลงสวนปาล์มมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่พบว่ายังแปลงเช่า จำนวน 4 ราย รวมเนื้อที่ 53,571 ไร่ในเขตอ.อ่าวลึก อ.ปลายพระยา อ.คลองท่อม เหนือคลอง และเขาพนม จ.กระบี่นั้นยังคงเหลือระยะเวลาอีก 2-5 ปีก็จะทยอยหมดสัญญา รองลงมา พื้นที่จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 13 รายพื้นที่ทั้งหมด 123,814 ไร่ในเขตอ.พุนพิน คีรีรัฐนิคม คียนซา ชัยบุรี กาญจนดิษฐ์ พระแสง โดยในจำนวนนี้มี 5 แปลงพื้นที่ตั้งแต่ 20,000 ไร่จนถึงเล็กสุด 700 กว่าไร่ที่ยังไม่สิ้นสุดการอนุญาตระหว่างปี 2558-2566 รวมทั้งยังมีปัญหาทับซ้อนกับที่ราชพัสดุที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ
ขณะที่ยังมีแปลงเช่าป่าเพื่อปลูกปาล์ม และสวนยางในเขต จ.ตรัง ชุมพร และพังงา ซึ่งมีทั้งแปลงขนาดเล็กและขนาดใหญ่ พบว่ามีทั้งหมดอายุการอนุญาตและยังเหลือระยะเวลาอีก 2 ปี และ 5 ปีเช่นกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างรัฐ เอกชน และกรมป่าไม้ ในฐานะหน่วยงานอนุญาตให้เช่า จึงมีนโยบายว่าจะไม่มีการต่อสัมปทานการเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติอีกต่อไป โดยเฉพาะแปลงที่หมดอายุมาเป็น 10 ปีแล้วนั้นถือว่าพื้นที่ต้องกลับคืนมาเป็นของกรมป่าไม้ โดยเฉพาะที่จ.กระบี่ และสุราษฎร์ธานี ที่เกิดปัญหาระหว่างนายทุน กับชาวบ้านยืดเยื้อมานานแล้ว ทางกรมป่าไม้ เตรียมเข้าไปสำรวจข้อมูลเชิงพื้นที่อีกครั้งอย่างละเอียดว่ามีจุดไหนบ้าง หลังจากนั้นจะเสนอให้จัดตั้งเป็นป่าชุมชนทั้งหมดทุกแปลง โดยจะเปิดโอกาสให้ชาวบ้านเข้าประโยชน์ และเก็บหาของป่า โดยการตั้งคณะกรรมการระดับพื้นที่ วางกติกาการทำประโยชน์จากป่าชุมชน
"ที่ผ่านมากรมป่าไม้ให้เอกชนเช่าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติมาคุ้มแล้ว บางรายอยู่มา 30 ปี 15 ปีและ 10 ปี เมื่อหมดอายุแล้วก็ต้องคืนพื้นที่ป่าให้กรมป่าไม้ เพื่อฟื้นฟูให้กลับสภาพป่า โดยจะไม่มีนโยบายต่ออายุเช่าไปเรื่อยๆ ส่วนพื้นที่เกิดปัญหาขัดแย้งกรมป่าไม้จะเร่งเข้าไปจัดการ โดยมีข้อเสนอให้ประกาศเป็นป่าชุมชน ให้ชาวบ้านที่เข้าไปทำประโยชน์ได้ โดยเฉพาะกรณีสวนปาล์มใน จ.กระบี่ ซึ่งเห็นว่าไม่จำเป็น ต้องโค่นต้นปาล์มทิ้ง แต่เปลี่ยนจากพื้นที่ที่นายทุนครอบครองแต่หมดอายุสัมปทาน มาให้ชาวบ้านยากจนที่เข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากต้นปาล์มน้ำเหมือนกับเป็นโอท็อปของชุมชน ในรูปแบบของป่าชุมชน ซึ่งชาวบ้านต้องช่วยกันฟื้นฟูปลูกป่า ดูแลพื้นที่ป่าสัมปทานให้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้สิทธิ์ครอบครอง หรือเข้าไปอยู่อาศัย หรือสามารถบุกรุกพื้นที่ป่าเพิ่มเติมได้" นายสุวิทย์ กล่าว
จากการตรวจสอบข้อมูลแปลงเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติทั้ง 45 รายนั้น มีแปลงที่หมดอายุเช่าแล้วจำนวน 18 แปลง โดยแบ่งเป็น ในจ.สุราษฎร์ธานี 6 แปลงรวมพื้นที่ 61,018 ไร่ จ.ชุมพร 2 แปลงรวมพื้นที 22,138 ไร่ และจ.กระบี่10 แปลงรวมพื้นที่ 63,324 ไร่ สำหรับพื้นที่แปลงเช่าของสุราษฎร์ธานี ได้แก่ 1.อ.พุนพิน เนื้อที่ 20,000 ไร่ อนุญาต 15 ก.พ.2527-14 ก.พ.2542 มีพื้นที่ทับซ้อนกับที่ราชพัสดุบ่อถ่านศิลา 2.อ.คีรีรัฐนิคม 20,000 ไร่ อนุญาต 15 ก.พ.27-14 ก.พ.42 มีพื้นที่ทับซ้อนกับที่ราชพัสดุบ่อถ่านศิลา 3.ชัยบุรี 15,000 ไร่ อนุญาต2 ม.ค.28-1 ม.ค.43 ยังไม่ได้ขอต่อหนังสืออนุญาต 4.ชัยบุรี 3,000 ไร่ อนุญาต 3 ธ.ค.28-2 ธ.ค.43 อยู่ระหว่างการขออนุญาตใหม่ 5.กาญจนดิษฐ์ 1,168 ไร่ อนุญาต 3 ธ.ค.28-2 ธ.ค.43 อยู่ระหว่างการขออนุญาตใหม่ 6.พุนพิน 1,850 ไร่ อนุญาต 10 ก.พ.31-9 ก.พ.46 พื้นที่ทับซ้อนกับที่ราชพัสดุบ่อถ่านศิลา
ส่วนที่จ.ชุมพร 2 แปลง ได้แก่ 1. ทุ่งตะโก 537 ไร่ อนุญาต 30 เม.ย.29-29 เม.ย.44 อยู่ระหว่างขออนุญาตใหม่ 2.ท่าแซะ 21,565 ไร่ อนุญาต 6 มิ.ย.22-5 มิ.ย.52 ระหว่างขออนุญาตใหม่ สำหรับที่จ.กระบี่ 10 แปลงที่หมดอายุการอนุญาต ได้แก่ 1.อ่าวลึก-ปลายพระยา 13,950 ไร่ อนุญาต 27 มี.ค.28-27 มี.ค.43 ,2.อ่าวลึก-ปลายพระยา 2,200 ไร่ อนุญาต 19 ก.พ.30-12 พ.ค.45 ,3.เหนือคลอง 21,000 ไร่ อนุญาต 11มี.ค.30-30 มิ.ย.45,4.เขาพนม 1,844 ไร่ อนุญาต 31พ.ค.31-30 พ.ค.46 ,5.เหนือคลอง 1,000 ไร่ อนุญาต 2 ต.ค.50-11 พ.ย.30-11 พ.ค.45 ,6.เหนือคลอง 500 ไร่ อนุญาต 28ก.ย.30-11 พ.ย.45, 7.เหนือคลอง 580 ไร่ อนุญาต 11ต.ค.31-23ต.ค.46,8.เขาพนม 3,000 ไร่ อนุญาต 11 ต.ค.31-23 ต.ค.46 ,9.เขาพนม 9,500 ไร่ อนุญาต2 ต.ค.30-1 ต.ค.45 และ 10. อ่าวลึก 9750 ไร่ อนุญาต 29ก.พ.31-28 ก.พ.45
ส่วนที่จ.ตรัง มีพื้นที่หมดอายุการอนุญาต 4 แปลงได้แก่ 1.วังวิเศษ 1,200 ไร่ อนุญาต 22 เม.ย.31-21เม.ย.46 ,2.สิเภา จ.ตรัง 6 ไร่ อนุญาต 26 พ.ย.30-25 พ.ย.45 , 3.สิเภา 20 ไร่ อนุญาต 17 พ.ย.30-16 พ.ย.45 และ 4 .สิเภา 17 ไร่ อนุญาต 22 ต.ค.30-21 ต.ค.45
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ 11-07-55
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.