สศก.หนุนสร้างรายได้ในภาคการเกษตรระยะยาว ลุยตลาดออนไลน์ หลังพบกว่า50%พึ่งพารายได้นอกภาคการเกษตร เจอโควิด -19 พ่นพิษ
นางอัญชนา ตราโช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (COVID-19) ที่ส่งผลกระทบไปทุกภาคส่วน ภาคเกษตรได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยแรงงานในเมืองและต่างประเทศโยกย้ายกลับภูมิลำเนา จึงมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อ ประกอบกับภาวะการเงินที่มีความตึงตัวอยู่ก่อน เมื่อไม่มีรายได้นอกการเกษตรมาช่วยในการชำระหนี้ที่มีมากโดยเฉลี่ย 221,490 บาทต่อครัวเรือน จึงส่งผลให้การเงินมีความตึงตัวมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ จากการประกาศของรัฐบาลให้ทุกหน่วยงานพิจารณามาตรการเหลื่อมเวลาทำงานและการทำงานที่บ้าน และประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการสถานการณ์ฉุกเฉิน (เคอร์ฟิว) ทำให้การซื้อขายในตลาดทั่วไป ทั้งสินค้าอุปโภค บริโภค จะมีผู้ซื้อและกำลังซื้อลดลงจากเดิม ประชาชนส่วนใหญ่จะเริ่มหันมาใช้สินค้าตลาดออนไลน์มากขึ้น เกษตรกรจึงจำเป็นต้องปรับตัวในการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์ในการผลิตและการตลาด
ดังนั้น การเสริมสร้างศักยภาพของภาคเกษตรในระยะยาว จึงต้องดำเนินการทั้งด้านเยียวยาและการเสริมสภาพคล่องให้ครัวเรือนเกษตร ได้พึ่งพารายได้ในภาคการเกษตรให้ได้ กระทรวงเกษตรฯ จึงอบรมเรียนรู้เพื่อพัฒนาศักยภาพพื้นที่เกษตร พัฒนาการใช้เทคโนโลยีและการตลาด เร่งส่งเสริมศักยภาพแรงงานภาคเกษตรโดยเฉพาะแรงงานคืนถิ่นที่กำลังว่างงาน จูงใจให้แรงงานอายุน้อยหันมาทำเกษตรมากขึ้น
ในส่วนของ สศก. ได้จัดทำโครงการแรงงานคืนถิ่น พลิกฟื้นผืนดินเกษตรไทย ด้วยศาสตร์พระราชา เพื่อเป็นแนวทาง และสร้างภูมิคุ้มกันให้ในสภาวะปัญหาเศรษฐกิจจากวิกฤตโรคร้ายโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกษตรกรที่มีที่ดินทำกินอยู่แล้ว แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำการเกษตรรูปแบบใด จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้รับ มาสร้างเป็นอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว ขยายผลสู่การทำการเกษตรกรรมยั่งยืน
นอกจากนี้ ควรส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีและการทำการตลาด เช่นตลาดออนไลน์ และเร่งแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้เกษตรกรส่วนใหญ่ทำเกษตรได้ตลอดทั้งปี เน้นไปที่การบริหารจัดการน้ำและดิน พร้อมทั้งแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และการสร้างความเข้มแข็งให้ระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยสร้างตลาดสินค้าควบคู่กันงานนอกการเกษตรเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 19 มิ.ย. 2563