กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมลงนามความร่วมมือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ดิน และเกษตรกรผู้ถือครองที่ดิน ตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีที่ดินฯ-สร้างความเป็นธรรมต่อ ปชช. ผู้เสียภาษี
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ณ ห้องประชุมไชยยงค์ ชูชาติ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กรุงเทพฯ – นายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.) ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกษตรกร รูปแปลงที่ดิน และข้อมูลผู้เสียภาษี สิ่งปลูกสร้าง
โดยมีนายสันติธร ยิ้มละมัย รองอธิบดี สถ. นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม รองเลขาธิการ ส.ป.ก. นายธวัชชัย เลี้ยงประเสริฐ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สถ. นางจิรพัฒน์ เธียรพานิช ผู้อำนวยการสำนักบริหารการคลังท้องถิ่น สถ. นางสาวจันทนา จิตการค้า ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส.ป.ก. เข้าร่วมในพิธีลงนาม
บันทึกข้อตกลงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกันในการจัดทำฐานข้อมูลการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกหรือเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการที่ดินของรัฐเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์สูงสุด
อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ย้ำว่า “การแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ดิน และเกษตรกรผู้ถือครองที่ดิน เป็นประโยชน์โดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถใช้สำรวจข้อมูลเพื่อใช้ในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้อย่างถูกต้อง และเป็นธรรมต่อประชาชนผู้เสียภาษี ทั้งยังเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐเพื่อสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกหรือเข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ส.ป.ก. ได้อีกทางหนึ่งด้วย
ด้าน นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม กล่าวว่า “การแลกเปลี่ยนข้อมูลของทั้งสองหน่วยงาน นอกจากทำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำข้อมูลไปใช้ในการจัดทำฐานข้อมูลในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้แล้วนั้น ก็จะเป็นประโยชน์ต่อ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมในการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์เพื่อบริหารจัดการที่ดินของรัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนตามภารกิจและอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานต่อไป”
หลังจากนี้ สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม จะได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลรูปแปลงที่ดินและข้อมูลผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในที่ดินของรัฐซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของ ส.ป.ก. แต่ละแปลงแยกเป็นรายตำบลส่งให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำไปใช้ประโยชน์ในการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 21 เม.ย. 2562