“ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เป็นประธานมอบสิทธิประโยชน์ที่ดินทำกินกว่า 2,300 ไร่ ให้เกษตรกร 324 ครัวเรือน ใน 4 ภาคของไทย สานโครงการ “มอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำกิน” ต่อเนื่อง
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในพิธี “มอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำกิน” ว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของปัญหาความเหลื่อมล้ำในที่ดินทำกินของเกษตรกร จึงได้จัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน หรือ บจธ. ขึ้น เพื่อทำหน้าที่กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน โดยตลอด 3 ปี ที่ผ่านมา บจธ. ได้ช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรให้มีที่ดินทำกินไปแล้ว 2,631 ราย 877 ครัวเรือน จำนวนที่ดินที่ บจธ. ดำเนินการกว่า 3,151 ไร่
ทั้งนี้ล่าสุด บจธ. ได้มอบสิทธิการใช้ประโยชน์ที่ดินทำกินให้เกษตรกรทั่วประเทศ จำนวน 324 ครัวเรือน พื้นที่ 2,378 ไร่ โดยแบ่งเป็น 4 ภาค คือ ภาคกลาง 35 ครัวเรือน เนื้อที่ 115-3-15.9 ไร่ ภาคเหนือ 41 ครัวเรือน เนื้อที่ 393-0-16.8 ไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 206 ครัวเรือน เนื้อที่ 1,726-1-52.4 ไร่ และภาคใต้ 20 ครัวเรือน เนื้อที่ 100-1-84.9 ไร่
สำหรับโครงการตามภารกิจของ บจธ. ทุกโครงการ จะต้องน้อมนำแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เรื่อง “ศาสตร์พระราชา” มาเป็นหลักในการพัฒนาที่ดินในโครงการด้วย และจะต้องให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีส่วนร่วมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาให้ความสำคัญอย่างยิ่ง และมีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติอันเป็นเป้าหมายของการพัฒนาประเทศ
ขณะที่กิจกรรม “มอบสิทธิ มอบสุขในที่ดินทำกิน” จะเป็นการจัดกิจกรรมอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้โครงการของ บจธ. เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพเกษตรกรรมได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยน้อมนำ “ศาสตร์พระราชา” มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต เช่นกัน
ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา ประธานกรรมการบริหาร บจธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า บจธ. เป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาการที่ดินของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระจายการถือครองที่ดิน ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างคุ้มค่า เป็นการช่วยเหลือกลุ่มเกษตรกรไม่มีที่ดินทำกินให้สามารถมีที่ดินทำกินเป็นของตนเอง
จากผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามโครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่มีปัญหาจะสูญเสียสิทธิในที่ดิน หรือสูญเสียสิทธิในที่ดินไปแล้ว จากการจำนอง การขายฝาก และการถูกบังคับคดี เป็นเครื่องพิสูจน์ได้ว่า บจธ. สามารถดำเนินการได้หลากหลายวิธีโดยไม่มีความซ้ำซ้อนกับวิธีการที่หน่วยงานอื่น ๆ ที่ดำเนินการอยู่แล้ว
พร้อมกันนี้ ยังวางเป้าหมายจะพัฒนา บจธ. ให้เป็นธนาคารที่ดินหรือองค์กรที่มีวัตถุประสงค์ทำนองเดียวกันในอนาคตอันใกล้ เพื่อช่วยกระจายการถือครองที่ดินให้แก่เกษตรกรมีที่ดินทำกินอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป
ที่มา : The Bangkok Insight วันที่ 30 ธ.ค. 2562