พระนครศรีอยุธยา - ปปง.มอบสัญญาเช่าที่นาที่ยึดทรัพย์จากนายทุนในคดีทุจริตจำนำข้าวเกือบ 3,500 ไร่ ให้เกษตรกร 4 อำเภอ ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
วันนี้ (4 ม.ค.) นายสุนทรา พลไตร ผู้อำนวยการส่วนบริหารทรัพย์สิน และคณะเจ้าหน้าที่ ได้รับมอบหมายจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบสัญญาเช่าที่นาให้แก่เกษตรกร จำนวน 89 ราย ซึ่งก่อนหน้านี้ ปปง. ได้ยึดทรัพย์นายทุนจากคดีทุจริตจำนำข้าว มีพื้นที่รวมทั้งสิ้นเกือบ 3,500 ไร่ ในเขตพื้นที่ 4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอผักไห่ อำเภอบางบาล อำเภอบางปะหัน และอำเภอบางไทร เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรนำไปใช้ประโยชน์จากที่นาต่อไป ในช่วงที่ ปปง. กำลังดำเนินการบริหารทรัพย์สิน และรอการพิจารณาคดีของศาล
สำหรับพื้นที่นาดังกล่าว เคยเป็นของกลุ่มนายทุนที่ให้เกษตรกรเช่าทำนา ภายหลังพบการทุจริตและถูกตรวจยึด ดังนั้น สำนักงาน ปปง. จึงให้เกษตรกรที่เคยเช่าที่ดินทำนาอยู่เดิมเข้ามาเช่าที่นาในราคาถูก ในอัตราไร่ละ 700 บาทต่อปี เป็นเวลานาน 3 ปี หรือจนกว่าศาลจะตัดสินคดีแล้วเสร็จ เพื่อไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน และตลอดช่วงการให้สัญญาเช่า จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงาน หากพบว่าเกษตรกรไม่นำพื้นที่ไปใช้ในทางการเกษตรจริง จะยกเลิกสัญญาทันที
ด้าน นางฝนทิพย์ ทัศนัย เกษตรกรอำเภอบางปะหัน กล่าวว่า ตนเอง รวมถึง เกษตรกรทุกคนที่ได้รับสัญญาเช่าจาก ปปง. ครั้งนี้ ต่างรู้สึกดีใจ เนื่องจากทำให้สามารถทำนาต่อไปได้ ที่ผ่านมา ต้องจ่ายค่าเช่าสูงไร่ละกว่า 1,000 บาทต่อการทำนา 1 รอบ ดังนั้น การที่ ปปง. เข้ามาช่วยเหลือครั้งนี้ ทำให้เกษตรกรประหยัดต้นทุน และมีเวลาบริหารจัดการต้นทุนในการเพาะปลูก เนื่องจากมีการเก็บค่าเช่าเป็นรายปี
ถ้าระดับค่าเช่าอยู่ระดับนี้ชาวนาก็พออยู่ได้ เพราะเป็นปีละครั้งที่จะต้องจ่ายค่าเช่า คือ เราก็ยังมีรายได้ในพื้นที่ เพราะพื้นที่เดิมเราทำอยู่แล้ว มันไม่ได้กระจายไปที่อื่นที่เราจะต้องไปเสียค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น ตรงนี้เมื่อเรามีกำลังพอที่จะทำเพิ่มได้ มันจะเป็นรายได้ที่เราจะได้เพิ่มอีก ผลประโยชน์ตรงนี้มันได้กับชาวนาโดยตรง ดีกว่าจะต้องไปผ่านนายทุนที่เขาให้เช่า
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 4 ม.ค. 2562