ส.ผู้ส่งออกข้าวฯเดินสายสำรวจข้าวหอมมะลินาปี ชี้พื้นที่ลดลง 2.21% ผลผลิตลดลง 8% ดันราคาข้าวเปลือกมะลิพุ่งตันละ 1.3 หมื่นบาท เตรียมหนุนเกษตรกรลุยปลูกข้าวขาวพื้นนุ่มลอตแรกออกสู่ตลาดต้นปี”62
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า เมื่อวันที่ 25-27 ตุลาคม 2561 ทาง ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย นำคณะลงพื้นที่สำรวจแหล่งผลิตข้าวหอมมะลิปี 2561/2562 ใน 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวในปีการผลิต 2561/62 มีประมาณ 37.4 ล้านไร่
ลดลง 2.21% จากปีการผลิต 2560/2561 นอกจากนี้ ในพื้นที่แต่ละพื้นที่ยังได้รับความเสียหายจากภัยแล้ง โรค และแมลง เป็นต้น รวมประมาณ 1,938,798 ไร่ หรือคิดเป็น 25.07% เทียบปีการผลิต 2560/61 ที่มีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย 2,587,505 ไร่ ทำให้คาดว่าปริมาณผลผลิตที่ได้รับ 12,392,541 ตัน ลดลง 8.00% จากปีการผลิต 2560/61 ปริมาณ 13,470,676 ตัน โดยจะเป็นผลผลิตข้าวเจ้า 7,277,953 ตัน ลดลงจากปีก่อนที่ได้ 8,410,906 ตัน ส่วนข้าวเหนียวผลิตได้ 4,313,999 ตัน จากปีก่อนที่ผลิตได้ 5,059,770 ตัน
“จากตัวเลขพบว่า ปริมาณผลผลิตข้าวจะลดลงจากปีก่อน แต่อาจต้องรอผลผลิตที่แท้จริงที่กำลังเกี่ยวทยอยออกสู่ตลาดพร้อมกันในเดือนพฤศจิกายนนี้ ผู้ส่งออกแนะนำให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการชะลอขายนำข้าวขึ้นยุ้งฉาง เมื่อเวลาที่เหมาะสมก็ค่อยนำข้าวออกมาขาย เพื่อป้องกันขายข้าวไม่ได้ราคา ซึ่งขณะนี้ข้าวหอมมะลิอยู่ที่ 13,000-14,000 บาทต่อตัน”
ด้านตลาดส่งออกข้าวในช่วง 9 เดือนแรก (มกราคม-กันยายน) 2562 ได้ 8.12 ล้านตัน ลดลง 1.8% และในส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิทำได้ 896,168 ล้านตัน ลดลงไป 25.1% โดยตลาดข้าวหอมมะลิที่สำคัญของโลกต่างนำเข้าลดลงทั้งหมด เช่น สหรัฐ ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ ดังนั้นไทยต้องปรับมาปลูกข้าวขาวพื้นนุ่มเพื่อไปแข่งขันแทนร.ต.ท.เจริญกล่าวว่า สมาคมฯทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับเกษตรกรใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี พิษณุโลก และพิจิตร ส่งเสริมให้เพาะปลูกข้าวพื้นนุ่ม สายพันธุ์ กข 21 กข 67 และพิษณุโลก 80 ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวดั้งเดิมของไทยอยู่แล้ว โดยสมาคมจะเพิ่มเงินรับซื้อข้าวดังกล่าวให้เกษตรกรตันละ 500 บาท จากระดับราคาตลาด
“ขณะนี้ผู้บริโภคมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปชอบข้าวขาวพื้นนุ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดจีน ทำให้สัดส่วนการส่งออกข้าวหอมมะลิของไทยไปจีนลดลง โดยเสียไปให้กับข้าวขาวเวียดนามที่เดิมส่งออกไม่กี่แสนตัน ปัจจุบันส่งออกได้เพิ่มขึ้น 2 ล้านตัน หากไม่ทำอะไรอาจจะเสียตลาดนี้ไปได้ การปลูกข้าวชนิดนี้เพื่อไปส่งออกจะได้ราคาสูงกว่าข้าวขาวทั่วไปตันละ 20-30 เหรียญสหรัฐ”
เบื้องต้นมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วม 10,000 ไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตลอตแรก 3,000 ตันข้าวเปลือก ในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งทางผู้ส่งออกจะนำข้าวดังกล่าวไปทดลองตลาด โดยเฉพาะตลาดจีน สิงคโปร์ และฮ่องกง
หลังจากสร้างการรับรู้ให้กับตลาดแล้วจะมาวางแผนขยายการเพาะปลูกต่อไป โดยสมาคมมีแผนจะส่งเสริมการปลูกข้าวพันธุ์พื้นนุ่มสายพันธุ์ใหม่ 2 พันธุ์ คือ กข 77 และ กข 79 ที่อยู่ระหว่างการรับรองจากหน่วยงานที่รับผิดชอบ
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 4 พ.ย. 2561