ประเทศไทยเนื้อที่ทั้งสิ้น 320.6 ล้านไร่ กว่า 70% ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ หากถูกนำมาใช้ประโยชน์โดยเฉพาะเรื่องของการเกษตรจะสร้างรายได้ปีละกว่า 1.27 แสนล้านบาท
ในขณะที่ยังมีเกษตรกรไร้ที่ดินทำกินที่ขึ้นทะเบียนแล้วกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ศูนย์ดำรงธรรม และ ส.ป.ก.อีกกว่า 800,000 ราย รอคิวเข้าทำการเกษตรบนที่ดินที่รัฐจะจัดสรรให้
ขณะเดียวกันยังมีเจ้าของที่ดินจำนวนไม่น้อยกำลังมองหาโอกาสใช้ประโยชน์ หรือสร้างรายได้จากที่ดินของตัวเองจากการขายหรือเช่า
ด้วยเหตุนี้ “โครงการตลาดกลางที่ดิน” จึงเกิดขึ้น โดยสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (บจธ.) คอยเป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของที่ดิน และเกษตรกรผู้ประสงค์ใช้ที่ดิน
โดย บจธ.จะทำหน้าที่สนับสนุน ให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับข้อตกลงในการใช้ประโยชน์ที่ดินในรูปแบบต่างๆ ทั้งเช่าซื้อ เช่า เช่าช่วง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ทั้งในเรื่องของราคาและการใช้ประโยชน์ในที่ดิน ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย การทำนิติกรรมรูปแบบต่างๆ... ไม่ว่าจะเช่าซื้อ เช่า หรือเช่าช่วง การันตีได้เลยว่าเป็นธรรม ไม่มีเบี้ยว แถมดูแลบริหารจัดการให้ทุกเรื่อง โดยหน่วยงานรัฐที่เชื่อถือได้
เรียกว่าวินวินทั้งสองฝ่าย เจ้าของที่ดินพอใจ ที่ดินถูกใช้ประโยชน์จากผู้ที่น่าเชื่อถือ เพราะได้รับการคัดกรองมาแล้ว และเกษตรกรสามารถเข้าถึงแหล่งทุนประกอบอาชีพเกษตรกรรม
สำหรับรูปแบบของตลาดกลางที่ดิน บจธ. อยู่ระหว่างจัดทำเว็บไซต์สื่อกลางให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และเจ้าของที่ดิน ทั้งรูปแบบซื้อขาด หรือเช่า มาลงทะเบียนในเว็บไซต์ จากนั้น บจธ.จะเป็นตัวกลางจับคู่ทั้งสองฝ่ายมาเจรจาร่วมกัน...เมื่อเกษตรกรมีที่ดินทำเกษตรแล้ว ยังมีเงินให้กู้ยืมดอกเบี้ยต่ำรายละ 200,000 บาท และปัจจัยการผลิตต่างๆให้ฟรีอีก 5,000 บาท
ถือเป็นการจับคู่รูปแบบใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศนี้ เกษตรกร เจ้าของที่ดินจูนเข้ากันได้ โดยมี บจธ.เป็นตัวกลาง.
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 11 ต.ค. 2561