“สมคิด” ให้การบ้าน ธ.ก.ส.-กระทรวงเกษตรฯ หาวิธีปฏิรูปการเกษตร ปรับโครงสร้างการผลิตยั่งยืน แนะลดดอกเบี้ยเกษตรกรต่ำกว่า 7% พร้อมอ้าแขนรับยินดีช่วยหนุน 3 มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรรายได้น้อยเข้า ครม. สัปดาห์หน้า และผุดไอเดียตั้งกองทุนฯ ดันสตาร์ทอัปเอสเอ็มอีเกษตร
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานแก่คณะผู้บริหารธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า องค์กรจะต้องลดความเสี่ยง และปรับตัวให้ได้ การปรับโครงสร้างการผลิตของเกษตรกรเป็นสิ่งที่สำคัญ ทำอย่างไรก็ได้เพื่อลดความเสี่ยงในภาคเกษตร ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจากการกู้สินเชื่อเป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง หากเป็นไปได้ควรมีการลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกจากปัจจุบัน 7%
ทั้งนี้ ในการปฏิรูปการเกษตร ธ.ก.ส. กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จะต้องทำงานร่วมกันหาวิธีที่ช่วยพัฒนาปรับโครงสร้างการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เน้นลดภาระต้นทุนเกษตรกรเพื่อให้เกิดกำไรและแข่งขันบนตลาดสากลได้ ส่วน 3 มาตรการที่ ธ.ก.ส. เสนอเข้ามาเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อยนั้น จะนำเข้าเป็นวาระการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาโครงการและงบประมาณที่จะต้องใช้ดำเนินงาน
นอกจากนี้ ตนมองว่า ในภาคการเกษตรจะต้องมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อระดมทุนสำหรับสตาร์ทอัปเอสเอ็มอีเกษตรกรขึ้นมา เพื่อให้เกิดการลงทุนอย่างมีระบบ และตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
ด้าน นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า สำหรับ 3 มาตรการ จำนวน 9 โครงการที่จะช่วยเหลือเกษตรกรรายได้น้อยที่ขึ้นทะเบียนในระบบของ ธ.ก.ส. ได้แก่ 1. มาตรการพัฒนาตนเอง 2. มาตรการพัฒนาอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ และ 3. มาตรการลดภาระหนี้สินทั้งในและนอกระบบ โดยปัจจุบันมีเกษตรกรที่เป็นหนี้ จำนวน 3.9 ล้านราย เป็นหนี้นอกระบบ ประมาณ 440,000 ราย จำนวนหนี้รวมประมาณ 26,000 ล้านบาท ส่วนที่เป็นลูกหนี้ ธ.ก.ส. จำนวน 1.01 ล้านราย มูลค่าหนี้รวมประมาณ 200,000 ล้านบาท โดยมองว่า มาตรการดังกล่าวจะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรได้กว่า 4.2 ล้านราย ทั้งนี้ ธ.ก.ส. จะใช้งบประมาณในการสนับสนุนสินเชื่อตลอดระยะเวลา 3 ปี ในวงเงิน 95,000 ล้านบาท
ส่วนเรื่องที่รองนายกฯ ได้ให้การบ้านไว้ ตนจะเร่งหารือกับกระทรวงเกษตรในการปรับแผนดำเนินงาน และวิเคราะห์ความจำเป็นในการเบิกจ่ายงบประมาณมาสนับสนุน และสำหรับกรณีที่จะให้ลดภาระต้นทุนเกษตรกรด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงต่ำกว่า 7% นั้น ปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้มีหลายโครงการที่อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อไม่ถึง 7% แต่ทั้งนี้ ก็จะไปวิเคราะห์กันอีกครั้งว่าจะสามารถคัดเลือกออกมาเป็นกลุ่ม ๆ ได้หรือไม่ อาจใช้วิธีเข้าร่วมโครงการโดยไม่ต้องกู้แทน เพราะปกติอัตราที่ ธ.ก.ส. มีให้เกษตรกรก็ต่ำกว่าธนาคารอื่นอยู่แล้ว
ขณะที่นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ยินดีให้ความช่วยเหลือในกรณีของงบประมาณหากต้องนำมาใช้เร่งด่วนในการปฏิรูป โดยให้ทาง ธ.ก.ส. รวบรวมรายละเอียดแล้วแจ้งเข้ามาว่าจะต้องใช้จำนวนเท่าไร เพื่อโครงการอะไรบ้าง ซึ่งก็อยากจะให้เร่งดำเนินการขอมาเพราะจะได้ทันเวลา ส่วนจะเป็นงบประมาณประจำปี 62 หรือเป็นการขอเบิกงบกลางปีนั้น จะต้องพิจารณาอีกครั้ง
ที่มา : ผู้จัดการ วันที่ 4 ม.ค. 2561