เกษตรฯ เปิดเวทีระดับภาค ติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจับมือ 4 ภาคี ภาครัฐ เกษตรกร สถาบันการศึกษา และเอกชน ลงนามความร่วมมือโครงการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ร่วมกัน ย้ำก้าวสำคัญ และความมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศให้บรรลุเป้าหมาย
วันนี้ (7 ธันวาคม 2560) นายธนิต เอนกวิทย์ รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ถึงการประชุมติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือ ณ ห้องประชุมใหญ่ อาคารหอพัก 700 ปี สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) ได้มอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามการขับเคลื่อนงานตามนโยบายเกษตรอินทรีย์ของภาคเหนือ และรับฟังข้อมูล ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ปัญหาอุปสรรคการดำเนินภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ปี 2560 – 2564 โดยการประชุมดังกล่าว ได้รับเกียรติจากรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายลักษณ์ วจนานวัช) เป็นประธาน พร้อมนี้ยังจัดให้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือใน ครั้งนี้ด้วย
การดำเนินงานด้านเกษตรอินทรีย์ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 เห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ ปี 2560–2564 เป็นกรอบการดำเนินงาน และได้เร่งรัดให้ทุกภาคส่วนดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายเกษตรอินทรีย์ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ผ่านคณะกรรมการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์แห่งชาติ และคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ระดับภาค 6 ภูมิภาค และคณะทำงานพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของจังหวัด โดยได้ดำเนินการขับเคลื่อนตามยุทธศาสตร์มาได้ระยะหนึ่งแล้ว
สำหรับเกษตรอินทรีย์ และตลาดประชารัฐ นับเป็นนโยบายที่รัฐบาลได้เร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก ดังนั้น การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแก่ทุกภาคส่วนในการสร้างความร่วมมือและเครือข่ายประสานการทำงานที่มีเป้าหมายและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยคัดเลือกเกษตรกรเพื่อเชื่อมโยงตลาดการค้า ในการเข้าร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจโครงการความร่วมมือดำเนินกิจกรรมขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ภาคเหนือ รวม 5 ฉบับ ขับเคลื่อนทำงานระหว่างภาครัฐ ได้แก่ กรมพัฒนาที่ดิน สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนองค์ความรู้ และงานวิจัย กลุ่มเกษตรกร ได้แก่ ผู้ผลิตข้าว พืชผัก พืชสมุนไพร ที่ผลิตสินค้าให้ได้มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และวิทยาลัยนเรศวร ในการสนับสนุนการบริหารจัดการกลุ่ม การถ่ายทอดความรู้ และการประเมินผล และภาคเอกชน ได้แก่ มูลนิธิพัฒนาศักยภาพ (โดยสถาบันชุมชนเกษตรยั่งยืน) บริษัท แมคนีน่าฟาร์มจำกัด คู่ค้าข้าวจังหวัดอุทัยธานี บริษัทเปรมสุขฟาร์ม ในการสนับสนุนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ ร่วมวางแผนการผลิตการรับซื้อสินค้า นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีการคัดเลือกเกษตรกรและสินค้าที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดมาร่วมจัดนิทรรศการเป็นจำนวนกว่า 40 บูธอีกด้วย
ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า การจัดประชุมและลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ทุกภาคส่วนมั่นใจในว่ารัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ของประเทศ และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือในการขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ในภาคเหนือให้บรรลุเป้าหมายอย่างเต็มประสิทธิภาพต่อไป
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.