"บิ๊กฉัตร" แจงสถานการณ์น้ำดีขึ้น เผยชงครม. ของบ 4 พันล้านบาท ช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่ประสบภัยรายละ 3,000 บาทต่อครัวเรือน
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศว่า สำหรับสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ลดปริมาณการระบายน้ำลง 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปัจจุบันการระบายน้ำเหลือเพียง 2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำโดยเฉลี่ยตั้งแต่ท้ายเขื่อนลงมาลดลง 50 ซม. ส่วนเหนือเขื่อนเจ้าพระยานั้นก็กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ลดการระบายน้ำเหลือเพียง 20 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำพองลดลง โดยในระยะเวลาอันใกล้จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ แต่ที่เป็นปัญหาอยู่จะเป็นตอนกลางของลุ่มน้ำชีคือ จ.มหาสารคาม และกาฬสินธุ์ เนื่องจากการระบายน้ำค่อนข้างช้า เพราะมีความคดเคี้ยว แต่การเร่งระบายน้ำที่ท้ายน้ำจ.อุบลราชธานี จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าวได้ภายในสิ้นเดือน พ.ย. นี้
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ 380เครื่อง และเครื่องมืออื่นๆ รวมมากกว่า 500 เครื่องลงไปวางกระจาย 14 จุด เพื่อให้มีความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ส่วนอาหารสัตว์ มีการส่งลงไป 2,000 ตัน และส่งสัตวแพทย์ลงไปประจำพื้นที่เพื่อดูแลสัตว์ด้วย ส่วนเรื่องอื่นๆ ได้มีการประสานกับกระทรวงมหาดไทยและทหารตลอดเวลา โดยในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ (7 พ.ย.) ได้มีการขออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือภาคเกษตรในพื้นที่ที่ประสบภัยจากพายุ รายละ 3,000 บาทต่อครัวเรือน เพิ่มเติมอีก 900,000 กว่าราย ในวงเงิน 4,000 ล้านบาทเศษ นอกจากที่เสนอครั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังมีมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆ อาทิ การจ้างงาน การชำระหนี้ของสหกรณ์ การช่วยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ โดยเฉพาะพื้นที่รับน้ำ
ที่มา กรุงเทพธุรกิจ 9 พฤศจิกายน 2560