ส.ป.ก.ยกร่างระเบียบอัตราเก็บเงินนายทุนใช้ที่ ส.ป.ก.ในกิจการพลังงาน-เหมืองแร่-ปิโตรเลียม คิดอัตรา 5% ของราคาที่ดินธนารักษ์
แหล่งข่าวในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการใช้และการกำหนดค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรและประโยชน์สาธารณะของประเทศ พ.ศ. ...โดยเตรียมเสนอพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (คปก.) ในวันที่ 20 ก.ย. 2560 พิจารณา
ทั้งนี้ ได้กำหนดอัตราการจัดเก็บค่าใช้ที่ดินเพื่อทำธุรกิจ พลังงาน เหมืองแร่ ปิโตรเลียม โดย ส.ป.ก.จะเก็บเงินค่าเช่าที่ดินเพื่อกิจการดังกล่าวเบื้องต้น 4 หมื่นบาท/ไร่/ปี และให้ปรับเพิ่มทุกปี เฉลี่ย 3 ปี จะปรับขึ้นประมาณ4,000 บาท/ไร่ และปีที่ 30 จะบวกอีก 9% ของราคา 3 ปีสุดท้ายจากเดิมที่ ส.ป.ก.จะเก็บอยู่ที่อัตรา 3.5 หมื่นบาท/ไร่/ปี
นอกจากนี้ ยังกำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอัตราค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดิน โดยจำแนกตามวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้ที่ดิน ซึ่งในระเบียบฉบับนี้กำหนดให้ 1.กรณีการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการ เพื่อสำรวจปิโตรเลียมขั้นต้นหรือเพื่อวางระบบโครงข่ายใต้พื้นดินหรือการทำเหมือง เฉพาะพื้นที่ใต้ดิน ไม่กระทบการทำการเกษตรของเกษตรกร ให้เรียกเก็บครั้งเดียวเท่ากับอัตรา 5% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินของกรมธนารักษ์ คูณด้วยเนื้อที่และระยะเวลาที่ได้รับความยินยอม
2.การขอใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อกิจการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการเจาะสำรวจและผลิตปิโตรเลียมหรือกิจการอื่นใดที่ทำให้เกษตรกรใช้ที่ดินทำการเกษตรไม่ได้ ให้เรียกเก็บครั้งเดียวเท่ากับอัตราค่าตอบแทนการใช้ที่ดินที่ปรากฏตามบัญชีที่แนบท้าย คูณด้วยเนื้อที่และระยะเวลาที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ ส.ป.ก.จะทบทวนบัญชีอัตราค่าตอบแทนการใช้ที่ดินดังกล่าวได้ทุกรอบ 10 ปี
3.การใช้ที่ดินเพื่อกิจการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและระบบโลจิสติกส์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ดินอย่างถาวรให้เรียกเก็บครั้งเดียวเท่ากับราคาที่ดินหรือราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินของกรมธนารักษ์แล้วแต่อย่างใดสูงกว่า คูณด้วยเนื้อที่ที่ได้รับอนุญาต ให้ยกเว้นค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินแก่ผู้ได้รับความยินยอม หรืออนุญาตที่ได้โอนสิทธิในที่ดินเพื่อเกษตรกรรมแปลงอื่นทดแทนให้แก่ ส.ป.ก.ตามสัดส่วนของที่ดินที่ได้จัดหามาทดแทน
สำหรับกรณีค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ดินที่มีระยะเวลาดำเนินกิจการไม่น้อยกว่า10 ปี อาจแบ่งงวดชำระเป็นรายปีได้ไม่เกินกว่า 5 ปี แต่ต้องชำระงวดแรกก่อนรับมอบหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินกรณีมีปัญหาเกี่ยวกับการดำเนินการตามระเบียบนี้ให้นำเสนอ คปก.เพื่อวินิจฉัยต่อไป
ทั้งนี้ กำหนดให้ผู้ได้รับความยินยอมหรืออนุญาต ซึ่งหมายถึงผู้ประกอบการที่ขอใช้ที่ดิน ส.ป.ก.และที่ประชุม คปก.ได้อนุญาตตามขั้นตอนของกฎกระทรวงแล้ว ต้องวางหลักประกันการดำเนินกิจการตามหนังสือยินยอม หรืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ที่ดินต่อส.ป.ก. เป็นจำนวนเงินเท่ากับมูลค่าของค่าใช้จ่ายในการดำเนินการและต้องทำค้ำประกันสัญญาชนิดเพิกถอนไม่ได้ ส่วนกรณีหมดอายุใช้ประโยชน์ให้ ส.ป.ก.ดูแลการคืนสภาพที่ดินและสั่งให้ออกจากที่ดิน
ที่มา โพสต์ทูเดย์ 18 กันยายน 2560