รัฐบาลใจดี ควัก1.5 พันล้าน พักชำระหนี้ชาวนา 2 ปี แถมลดดอกเบี้ย ขณะที่วิสาหกิจชุมชนก็เฮด้วย ครม.ไฟเขียวขยายเวลาเว้นภาษีอีก 3 ปีสำหรับวิสาหกิจชุมชนรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ผู้ประกอบการระดับรากฐานกว่า 70,000 แห่ง
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม.มีมติเห็นชอบการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปี เพื่อดำเนินโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและลดดอกเบี้ยให้สมาชิกของสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2559/2560 เป็นเงินปีละ 767.91 ล้านบาท ระยะเวลา 2 ปี ตั้งแต่ 1 ก.ค.59 - 30 มิ.ย.61 จำนวนงบประมาณทั้งสิ้น 1,535 ล้านบาท โดยการชดเชยดอกเบี้ย 3% อาจจะเป็นรัฐช่วยทั้ง 3% หรือให้กลุ่มสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกรช่วยรับภาระตรงนี้เหมือนกรณีของ ธ.ก.ส.ด้วยหรือไม่นั้น จะมีการหารือกันเป็นการภายในต่อไป
อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ สืบเนื่องจากมาจากเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.59 ครม.มีมติเห็นชอบโครงการพักชำระหนี้ต้นเงินและลดดอกเบี้ยเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 59/60 สำหรับเกษตรกรที่เป็นลูกค้าของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยการเลื่อนกำหนดชำระคืนต้นเงินเป็นเวลา 2 ปี และลดดอกเบี้ย 3% โดยครั้งนั้นมีผู้เข้าร่วมโครงการ 2 ล้านราย และรัฐสนับสนุนดอกเบี้ยชดเชย 1.5% และ ธ.ก.ส.ช่วยชดเชยอีก 1.5% แต่ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว (นบข.) เห็นว่าควรจะให้การช่วยเหลือเกษตรกรที่ไม่ใช่ลูกค้าของ ธ.ก.ส.ด้วย เช่น เกษตรกรที่เป็นลูกหนี้ของสมาชิกสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกร นบข.จึงมีมติเมื่อวันที่ 18 พ.ย.59 ให้ช่วยเหลือเกษตรกรกลุ่มนี้ด้วย โดยที่เกษตรกระได้รับการชดเชยดอกเบี้ย 3% ต่อปี
ดังนั้น วันนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเสนอที่ประชุม ครม.ให้โครงการพักชำระหนี้ต้นเงินมีกลุ่มเป้าหมายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรที่มีหนี้เงินกู้เพื่อการผลิตข้าว ณ วันที่ 31 พ.ค.59 ไม่เกิน 5 แสนบาท รวมทั้งหมดมีจำนวน 287,676 ราย ต้นเงินกู้ทั้งหมด 25,596 ล้านบาท จุดประสงค์เพื่อบรรเทาภาระหนี้สินและลดต้นทุนในการประกอบอาชีพทำนาของสมาชิก เพื่อให้มีโอกาสนำเงินไปฟื้นฟูตนเอง และมีเงินทุนไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในครัวเรือน
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับวิสาหกิจชุมชน เพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจดทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่ไม่ใช่นิติบุคคล มีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ออกไปอีก 3 ปี สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2560-31 ธันวาคม 2562 จากเดิมครบกำหนดวันที่ 31 ธันวาคม 2559
สำหรับการต่ออายุมาตรการดังกล่าว เพื่อช่วยบรรเทาภาระภาษีให้กับวิสาหกิจชุมชน ซึ่งเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจสำคัญของประเทศกว่า 70,000 แห่ง หวังสร้างให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ และเติบโตเป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในอนาคต เพื่อเข้าถึงสิทธิประโยชน์ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง เมื่อรัฐบาลผ่อนปรนเงื่อนไขดังกล่าวแล้ว จึงกำหนดเงื่อนไขเพิ่มด้วยการให้วิสาหกิจชุมชนได้รับการยกเว้นภาษีต้องจัดทำบัญชีรายรับ รายจ่ายประจำวัน และยื่นแบบแสดงรายการภาษีประจำปี เริ่มตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นไป ยอมรับว่าการยกเว้นภาษีเงินได้ดังกล่าวกระทบต่อรายได้ของรัฐบาลเพียงเล็กน้อย แต่ต้องการส่งเสริมให้วิสาหกิจชุมชนมีการพัฒนาศักยภาพ การผลิตสินค้าและบริการของชุมชนให้เติบโตในระยะยาว
ที่มา บ้านเมือง วันอังคาร ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2560
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.