วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2560 ผู้อำนวยการชลประทานที่ 12 ชัยนาท ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงพี่น้องเกษตกรที่พบว่ามีการทำนานอกแผนไปแล้วกว่า 1 ล้านไร่ เพราะในหน้าแล้งที่จะมาถึงน้ำอาจจะไม่เพียงพอ ซึ่งจำเป็นต้องหาแหล่งน้ำสำรองเตรียมไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากสภาวะความแห้งแล้งที่กำลังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันเริ่มกระทบกับประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำนาต่อเนื่องหรือนาปรัง ทำให้นายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 ชัยนาท ซึ่งดูแลพื้นที่ภาคกลางฝั่งตะวันตก แหล่งการเกษตรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ออกมาแสดงความห่วงใยถึงเกษตรกรหลังจากที่สำรวจพบว่ามีการทำนาปรังนอกแผนมากถึงกว่า 1 ล้านไร่ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสี่ยงจากภาวะน้ำน้อย โดยจากแผนการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทาน ภาคกลางมีพื้นที่เกษตรในแผนที่สามารถเพาะปลูกในหน้าแล้งได้ 2.6 ล้านไร่ แต่ปัจจุบันพบว่ามีการเพาะปลูกไปแล้วถึงกว่า 3.7 ล้านไร่ ซึ่งในส่วนที่เกินมาถือว่ามีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากสภาวะน้ำน้อยในช่วงหน้าแล้งเดือนมีนาคม-เมษายน ซึ่งในส่วนนี้เกษตรกรควรหาแหล่งน้ำสำรองทั้งหนองบึงและน้ำบาดาลไว้เพื่อป้องกันความเสียหาย และขอความร่วมมือเกษตรกรที่เตรียมลงมือเพาะปลูกรอบใหม่ขอให้ชะลอออกไป เพื่อเริ่มเพาะปลูกตามแผน 1 พฤษภาคม ที่กรมชลประทานจะเริ่มส่งน้ำเข้าพื้นที่เกษตร ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากภัยแล้งได้