คิดไม่ออกบอกกระทรวงเกษตรฯ โรงสีร้องโอ้ก! แก้ปัญหาราคาตก
นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังประชุมผู้ประกอบการโรงสีข้าวเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประชุมคณะอนุกรรมการวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ว่า สำหรับกรณีที่จะเกิดปัญหาราคาข้าวจะตกต่ำในอีก 2 เดือนข้างหน้า เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากนั้น เบื้องต้นกระทรวงเกษตรฯเห็นว่าควรจะตั้งราคารับซื้อเอาไว้ล่วงหน้า โดยคำนวณจากราคาส่งออก เพื่อนำมากำหนดราคาที่เกษตรกรควรได้รับ โดยได้ตั้งสมมติฐานราคาส่งออกข้าวขาว 5% ไว้ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อตัน และให้ทางสมาคมโรงสีกลับไปพิจารณาเพื่อนำเข้า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ที่มี พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ เป็นประธานในวันที่ 7 ก.ย.นี้
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ เลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯมีแผนกำหนดราคารับซื้อข้าวล่วงหน้า ซึ่งจะทำให้โรงสีต้องรับซื้อข้าวจากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแปลงใหญ่ ในราคาสูงกว่าราคาตลาดตันละ 200-300 บาท ซึ่งเรื่องนี้ทางโรงสีคงจะต้องหารืออีกครั้ง เนื่องจากอยากให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด อย่างไรก็ตาม ถ้าโรงสีร่วมมือรับซื้อข้าวในตลาดที่สูงแล้วกระทรวงเกษตรฯต้องมีผู้ส่งออกรับซื้อต่อด้วยเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับโรงสีในการเก็บสต๊อก
“ขณะนี้โรงสีมีข้าวค้างสต๊อกอยู่จำนวนมาก โรงสีบางแห่งขาดสภาพคล่องแล้ว ในขณะที่ธนาคารไม่ปล่อยกู้ ดังนั้น หากรัฐบาลต้องการให้โรงสีรับซื้อข้าวปี 2559/60 ในราคาที่สูงกว่า รัฐบาลต้องหาเงินมาช่วย ส่วนเรื่องราคายังไม่สามารถคาดเดาแนวโน้มราคาข้าวที่จะออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้าได้ แต่คาดว่าแนวโน้มจะปรับตัวลดลงจากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดสูงขึ้น การแก้ไขปัญหาดังกล่าวรัฐบาลไม่ควรโฟกัสที่ราคา เพราะวัตถุประสงค์ของโครงการแปลงใหญ่ก็เพื่อลดต้นทุนการผลิต ควรจะวัดผลกันตรงนี้มากกว่า” นายเกรียงศักดิ์กล่าว
นายเกรียงศักดิ์กล่าวว่า ปัจจุบันเป็นช่วงการเพาะปลูก โดยปกติราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้
นเพราะเกษตรกรมีข้าวเก็บไว้ในสต๊อกน้อย และส่วนใหญ่ข้าวจะอยู่กับโรงสีที่ซื้อเก็บสต๊อกเอาไว้เพื่อเก็งราคา แต่ในปีนี้ช่วงสัปดาห์แรกของเดือน ก.ย. พบว่าราคาข้าวได้ปรับลดลง ข้าวขาวเหลือราคา กก.ละ 12 บาท จากต้นฤดูการเก็บเกี่ยวอยู่ที่ กก.ละ 14 บาท ข้าวหอมมะลิเหลือราคา กก.ละ 21 บาท จาก 28 บาท และข้าวเหนียวราคา กก.ละ 26 บาท จาก 30 บาท
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 7 ก.ย. 2559