เครือข่ายวิจัยปฏิบัติการที่ดินนานาชาติเรียกร้องรัฐบาลหยุดดำเนินคดีปฏิรูปที่ดิน
31 พฤษภาคม 2555 เครือข่ายวิจัยปฏิบัติการที่ดิน Land Research Action Network (LRAN) ซึ่งเป็นเครือข่ายขององค์กรและนักเคลื่อนไหวทางสังคม ที่ทำการศึกษาวิจัยวิเคราะห์ปัญหาที่ดินและการปฏิรูปที่ดินทั่วโลก ออกจดหมายเปิดผนึกจากนานาชาติถึง นายก ฯ ยิ่งลักษณ์ เรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีนักกิจกรรมปฏิรูปที่ดิน
จดหมายเปิดผนึกจากนานาชาติถึง นายก ฯ ยิ่งลักษณ์ เรียกร้องให้หยุดดำเนินคดีนักกิจกรรมปฏิรูปที่ดิน (คลิ๊กอ่านต้นฉบับภาษาอังกฤษ)
31 มิถุนายน เวลา 13.30 น. ตัวแทนเครือข่ายวิจัยปฏิบัติการที่ดินสากล จะไปยื่นจดหมายเปิดผนึกที่ลงนามสนับสนุนโดยเอ็นจีโอนานาชาติ 58 องค์กร บุคคลทั่วไป 35 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีนักวิชาการ 11 คน สมาชิกรัฐสภา 2 คน ผู้นำทางศาสนา 1 คน พร้อมด้วยเครือข่ายและองค์กรพัฒนาเอกชนไทย 18 องค์กร ส่งถึงนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร
จดหมายเปิดผนึกดังกล่าว (สรุปจดหมายตามเอกสารแนบ) เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี "ระงับการดำเนินคดีต่อประชาชนที่เข้าร่วมในปฏิบัติการรณรงค์เพื่อการปฏิรูปที่ดิน และให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ในต่อการกระจายการถือครอง และการปฏิรูปที่ดิน ตลอดจนแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดินอย่างเป็นธรรม เพื่อหลักประกันวิถีการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของเกษตรกรรายย่อยในชุมชนนับพันชุมชนทั่วประเทศ"
จดหมายนี้ถูกเขียนขึ้นไม่กี่วันก่อนหน้าวันตัดสินคดีที่ดินชั้นศาลฎีกา ที่มีแนวโน้มว่าจะตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหวและแกนนำชาวบ้าน 3 คน ที่มีส่วนร่วมในปฏิบัติการรณรงค์ปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนในจังหวัดลำพูนเมื่อปี 2545 นี่ยิ่งเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงการขยายขอบเขตการจับกุมดำเนินคดีต่อชาวบ้าน และเครือข่ายที่ต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดิน
คาดว่าผู้ต้องหาทั้งสามคนจะถูกตัดสินจำคุกคนละไม่น้อยกว่า 4 ปี จากบทบาทในการผลักดันการปฎิรูปที่ดินโดยชุมชน หลังจากคดีอยู่ในชั้นศาลต่าง ๆ มาเป็นเวลาถึง 9 ปี
ขบวนการปฏิรูปทิ่ดินโดยชุมชน เกิดขึ้นจากปฏิบัติการยึดที่ดินรกร้างว่างเปล่าที่มีปัญหาโต้แย้งเรื่องเอกสารสิทธิ์ในหลายอำเภอ ของจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่ ระหว่างปี 2540-2546
หลังปฏิบัติการยึดที่ดิน สมาชิกเครือข่ายมีการจัดตั้งกฎระเบียบเพื่อคุ้มครองการถือครองที่ดินอย่างยั่งยืน โดยการตั้งเงื่อนไขให้มีการใช้ที่ดินเพื่อการผลิตมิให้ทิ้งร้าง เป้าหมายสำคัญของกระบวนการปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนคือ การสร้างหลักประกันว่าที่ดินจะไม่หลุดไปจากมือเกษตรกรรายย่อย และอยู่ในการครอบครองของชุมชนท้องถิ่น
แนวทางและกติกาที่สร้างขึ้นจากขบวนการที่ดินลำพูน ได้กลายเป็นต้นแบบในการดำเนินการจัดทำ "โฉนดชุมชน" ซึ่งต่อมาในปี 2554 ได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดยคำสั่งนายกรัฐมนตรีขณะนั้น ในฐานะที่เป็นแนวทางใหม่ในการให้กรรมสิทธิ์ที่ดิน
การดำเนินคดีต่อสมาชิกเครือข่ายปฏิรูปที่ดินลำพูน-เชียงใหม่เป็นกรณีที่ใช้เวลายาวนานนับจากปี 2545 จนถึงวันตัดสินคดีชั้นศาลฎีกาในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ ขณะที่ไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีการเพิ่มจำนวนและความรุนแรงในการจับกุมดำเนินคดีชาวบ้านที่พยายามผลักดันการรับรองสิทธิมั่นคงในการถือครองและใช้ประโยชน์ที่ดิน ดังตัวอย่างเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่มีการจับกุม และไล่รื้อไร่สวนของชาวบ้านในเครือข่ายปฏิรูปที่ดินเทือกเขาบรรทัด และการเร่งดำเนินคดีสมาชิกสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ
สุมิตรชัย หัตถสาร ที่ปรึกษา สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ชี้ว่า "ถ้ารัฐบาลทำหน้าที่ของตนในการจัดให้มีการปฏิรูปที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่กลุ่มชาวบ้านจะต้องมาขยับการปฏิรูปด้วยตนเอง"
ชามาลี กุตตาล จากเครือข่ายวิจัยปฏิบัติการที่ดิน ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ประสานงานการรณรงค์ครั้งนี้ กล่าวว่า"เราได้เห็นแนวโน้มการดำเนินคดีของรัฐต่อชุมชนท้องถิ่นเช่นนี้ทั้งในประเทศไทย และประเทศกัมพูชา ที่ประชาชนถูกจำคุกเป็นเวลาหลายปีจากการต่อสู้ปกป้องสิทธิที่ดิน ปกป้องวิถีชีวิตและถิ่นฐานบ้านเกิด แต่การบังคับรื้อถอนเผาทำลายบ้านเรือนไร่สวนของชาวบ้านกับได้รับการยกโทษ การกระทำรุนแรงเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้"
จักรชัย โฉมทองดี จากโครงการศึกษาและปฏิบัติการงานพัฒนา สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งร่วมลงนามในจดหมายด้วย กล่าวว่า "เวลานี้ประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยซึ่งมีนโยบายเน้นการส่งเสริมสวัสดิการความกินดีอยู่ดีของประชาชนคนยากจน และคนชนบท หากรัฐบาลทำงานกับเครือข่ายประชาชนรากหญ้าและพิจารณาอย่างจริงจังต่อข้อเสนอการปฏิรูป จะทำให้รัฐบาลสามารถยกระดับการส่งเสริมนโยบายเพื่อคนจนให้ประสิทธิภาพมากกว่านโยบายหาเสียงระยะสั้น และการปฏิรูปที่ดินก็เป็นประเด็นปฏิรูปเชิงโครงสร้างที่สำคัญต่อการแก้ไขปัญหาของคนยากจน "
นอกเหนือจากที่ประเทศไทยจะต้องดำเนินการตามข้อผูกมัดตามกฎหมายปฎิรูปที่ดินของประเทศแล้ว ประเทศไทยยังได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงความสำคัญของการปฏิรูปทิ่ดิน ต่อที่ประชุมนานาชาติว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินและพัฒนาชนบท (ICCRRD) ที่จัดโดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO)
นอกจากนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยความมั่นคงทางอาหาร ยังได้ให้การรับรอง "แนวปฏิบัติว่าด้วยกรรมสิทธิ์ที่ดิน ประมง และป่าไม้" ซึ่งเรียกร้องให้รัฐต่าง ๆ ดำเนินการปฏิรูปการถือครองที่ดิน เพื่อตอบโจทย์ของสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนให้ความเคารพ และรับรองสิทธิชุมชนในที่ดิน
โซเฟีย มอนซาล จากองค์กร เครือข่ายปฏบัติการสากลอาหารต้องมาก่อนกล่าวว่า "การทำให้ผู้นำชาวนาชาวไร่กลายเป็นอาชญากรจากปฏิบัติการที่พวกเขากระทำเพื่อปกป้องสิทธิที่ดินนั้น เกิดขึ้นไปทั่วโลก ไม่แต่เฉพาะในประเทศไทย ในวรรค 4.8 ของ"แนวปฏิบัติว่าด้วยกรรมสิทธิ์ที่ดิน ประมง และป่าไม้" ของคณะกรรมการสหประชาชาติว่าด้วยความมั่นคงทางอาหารกระตุ้นให้รัฐต่าง ๆ ให้ความเคารพและปกป้องสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมืองของชาวนาชาวไร่ ชาวประมง ชนเผ่า ผู้เลี้ยงสัตว์ และแรงงานในชนบท ผู้ลุกขึ้นมาเรียกร้องปกป้องสิทธิของตน
Contacts:
Rebeca Leonard, Land Research Action Network, +66-89-476-6726
Shalmali Guttal, Land Research Action Network, +66-81-375-6409
สรุปสาระสำคัญของจดหมายฉบับนี้
1. แสดงความห่วงใยถึงการเพิ่มขึ้นของการจับกุมดำเนินคดีประชาชนที่เคลื่อนไหวรณรงค์เรื่องสิทธิที่ดิน
2. คดีที่ดินลำพูน ในวันที่ 6 มิถุนายน จะสะท้อนให้เห็นท่าทีและแนวทางของรัฐบาลไทยต่อนักเคลื่อนไหวที่สู้เพื่อรณรงค์หรือแก้ไขปัญหาที่ดินในประเทศไทยที่ได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในระดับสากล
3. ย้ำให้ประเทศไทยเห็นความสำคัญของการปฏิบัติตามพันธะกรณีกับระดับนานาชาติเมื่อปี 2006 ในเวที ICARRD ที่จัดขึ้นที่ประเทศบราซิลว่าด้วยความสำคัญของการปฏิรูปที่ดินเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและการจัดการกับทรัพยากรธรรมชาติ
4. การปฏิรูปที่ดินและการเกษตร (Agrarian Reform) ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกโดยเฉพาะจากผู้ตรวจการสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิด้านอาหาร UN Special Rapporteur on the Right to Food ว่าจำเป็นและมีความสำคัญในการรับรองสิทธิ การเข้าถึงอาหาร และจากงานรวบรวมงานวิจัยต่างๆของ IAASTD ภาคเกษตรกรรายย่อย
5. ความขัดแย้งเรื่องที่ดินในประเทศไทยด้านหนึ่งเกิดขึ้นจากการทุจริตและความไม่โปร่งใสในการออกเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดิน
6. เครือข่ายปฏิรูปที่ดินแห่งประเทศไทยได้เสนอข้อเสนอสำคัญในการปฏิรูปที่ดิน ที่รกร้างว่างเปล่า การสร้างความมั่นคงในการถือครองที่ดินให้กับคนจน นำภาษีที่ดินอัตราก้าวหน้า ธนาคารที่ดินซึ่งข้อเสนอนี้ได้รับการยอมรับในบางส่วนจากรัฐบาล แต่การดำเนินการตามข้อเสนอไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างจริงจัง
7. แม้ว่าประเทศไทยมีนโยบายในการปฏิรูปที่ดินมากว่า 30 ปีแล้ว แต่ประเด็นนี้ถูกสร้างมาเป็นประเด็นระดับชาติเพราะผลพวงเกิดจากความเคลื่อนไหวของเกษตรกรรายย่อย
8. ขบวนการปฏิรูปที่ดินโดยชุมชนในภาคเหนือได้ยึดครองที่ดินเพื่อเป็นประโยชน์ต่อชุมชนยากจน ณ ตอนนี้ ที่ดินผืนนี้สามารถสร้างรายได้และเป็นแหล่งอาหารให้กับชุมชน
9. กิจกรรมหรือการเคลื่อนไหวขบวนการปฏิรูปที่ดินมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้ประเด็นสิทธิที่ดินชุมชนซึ่งเป็นจุดก่อเกิด "โฉนดชุมชน" ที่น่าจะเป็นรูปธรรมการจัดการที่ดินเพื่อความมั่นคงยั่งยืนของการถือครองที่ดินของเกษตรกรรายย่อยในระยะยาว
10. เป็นที่น่าตกใจที่ผลจากการเคลื่อนไหวเพื่อสร้างแรงผลักดันทางนโยบายการปฏิรูปการถือครองที่ดิน ทำให้สมาชิกของขบวนการนี้ต้องติดคุกระยะยาว
11. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยหยุดลงโทษเยี่ยงอาชญากรต่อประชาชน ที่กำลังดำเนินงานรณรงค์เพื่อปฏิรูปที่ดินและให้ความสำคัญกับการถือครองที่ดินให้เป็นธรรม แก้ไขความขัดแย้งเพื่อวิถีชีวิตที่ยั่งยืนสำหรับเกษตรรายย่อยทั้งหลายทั่วประเทศ
มูลนิธิชีวิตไท (Local Act)
129/250 หมู่บ้านเพอร์เฟคเพลส รัตนาธิเบศร์ ถนนไทรม้า ต.บางรักน้อย อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
โทรศัพท์: 02-048-5465 E-mail : This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.