เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2558 เว็บไซต์ landjustice4thai.org รายงานว่าสืบเนื่องจาก สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) และ ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้มีการยื่นหนังสือถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาของคนจน ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 โดย สกน. ขอให้หน่วยงานที่รับเรื่องเร่งรัดประสานงานและติดามข้อเสนอและข้อเรียกร้องในการแก้ไขปัญหา และแจ้งความคืบหน้าการดำเนินการอย่างเป็นทางการให้กับ สกน.รับทราบ ภายในระยะเวลา 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ยื่นหนังสือ
แต่ผลปรากฏว่า ผ่านไป 7 วัน ตามที่ได้นัดหมาย สกน.กลับไม่ได้รับการประสานงานจากหน่วยงานภาครัฐแต่อย่างใด ในขณะที่ปัญหาของชาวบ้านและชุมชนสมาชิกของ สกน. และพื้นที่อื่นๆ กลับได้รับความเดือดร้อน และผลกระทบจากแผนปฏิบัติการตามนโยบายของรัฐอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.58 ที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ อำเภองาว จังหวัดลำปางซึ่งได้รับผลกระทบจากนโยบายการทวงคืนผืนป่าและ การประกาศเขตอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไทซ้อนทับ จะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางเพื่อร้องเรียนให้มีการกันแนวเขตพื้นที่ชุมชน ทั้งที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย และพื้นที่ป่าชุมชน ออกก่อนการประกาศเขตอุทยานฯ และให้หน่วยงานภาครัฐสนับสนุนชุมชนในการจัดการที่ดินและทรัพยากรโดยชุมชนในรูปแบบโฉนดชุมชน ซึ่งแต่ละชุมชนได้มีข้อมูล แนวเขตการจัดการชัดเจนทุกหมู่บ้าน แต่ปรากฏว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่สกัด ข่มขู่ไม่ให้ชาวบ้านเดินทางไปพบผู้ว่าฯ
หรือแม้แต่การดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่โครงนำร่องธนาคารที่ดิน จังหวัดเชียงใหม่ – ลำพูน ซึ่ง ครม.ได้มีมติให้ดำเนินการ โครงการดังกล่าวตั้งแต่ปี 2554 แต่ผลปรากฏว่าผ่านไป 2 รัฐบาล (รัฐบาลอภิสิทธิ์ และ รัฐบาลยิ่งลักษณ์) และรัฐบาลที่ 3 ยุค คสช.การดำเนินการแก้ไขปัญหาก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด มิหนำซ้ำชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่กลับถูกนายทุนฟ้องร้องดำเนินคดี อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนสิ้นปี 2558นี้ ในวันที่ 23 , วันที่ 29 ธันวาคม 2558 ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่นำร่องฯ บ้านไร่ดง และบ้านแพะใต้ จะ ต้องขึ้นศาลจังหวัดลำพูนเพื่อรับฟังคำพิพากษาศาลฎีกา จำนวน 9 ราย
และสิ่งที่เป็นกังวลใจที่สุดเมื่อชาวบ้านได้รับทราบข่าวว่ารัฐบาลยุค คสช.จะคืนความสุขให้กับประชาชน โดยการมอบของขวัญปีใหม่ด้วยการสั่งการให้มีการยุบสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) และ ยุติการดำเนินงานของสำนักงานโฉนดชุมชน ซึ่งนั่นก็หมายความว่ากลไกที่ชาวบ้านคาดหวังว่าจะนำมาแก้ไขปัญหาที่ดินที่เคยผลักดันมาก็จะสิ้นสุดลงอย่างสิ้นเชิง นอกจากนี้ความเครียดเรื่องคดีความ และความล่าช้าในการแก้ไขปัญหาทางนโยบาย และความไม่จริงใจที่จะมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาหากับประชาชนตามเจตนารมณ์ “คืนความสุขให้ประชาชน” สกน.จึงได้มีการกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหวเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับคนจนอย่างจริงจังในไม่ช้านี้
ที่มา : ประชาไท วันที่ 19 ธ.ค. 2558