สศช.ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯฉบับ 12 ดีเดย์ ใช้ 1 ต.ค.2559 เร่งเครื่องจีดีพีโตไม่ต่ำ 5% ตั้ง เป้าหมายให้ประเทศหลุดรายได้ปานกลางในปี 2569 ด้านนายกฯ สั่งดูแลผู้มีรายได้น้อยต้องมีกินมีใช้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ "ทิศทางแผนเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12" ในการจัดการประชุมประจำปี 2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ (สศช.) ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 มีเป้าหมายคือการยกระดับให้ประชาชนมีความมั่งคั่ง มั่นคงและยั่งยืน จึงฝากให้ สศช.จัดทำให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ประเทศในระยะ 20 ปีข้างหน้า และจัดทำออกมาให้เป็นแผนปฏิบัติการ (action plan) เพื่อวางรากฐานให้ประเทศ เและวัดผลได้ชัดเจน โดยในส่วนการลดความเหลื่อมล้ำนั้นแม้จะแก้ให้มีความร่ำรวยเท่ากันได้ยาก แต่ก็ต้องแก้เพื่อให้อย่างน้อยประชาชนที่มีรายได้น้อยมีกินมีใช้ รวมทั้งต้องปฏิรูปตามข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งจะให้สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปแห่งชาติมาดำเนินการต่อโดยให้รวมเรื่องการปฏิรูปในแผนพัฒนาฯ ด้วย
ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม และเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า แผนพัฒนาฯ จะเกี่ยวข้องกับ 3 ส่วน ได้แก่ 1.ความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปีตามแผนวิสัยทัศน์ประเทศไทยปี 2573
2.นำข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) 37 ข้อบางส่วนมารวมไว้ด้วย และ 3.ในร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรกำหนดให้แผนพัฒนาฯ ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ให้มีผลในทางบังคับต่อรัฐบาลที่เข้ามาบริหารประเทศให้ดำเนินการตามเพื่อให้แผนให้มีผลเป็นรูปธรรม เช่น แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ในอดีตมักมีการเปลี่ยนแปลงในรายละเอียดจนเกิดความล่าช้า
นอกจากนี้ จะต้องมีการเพิ่มตัวชี้วัดทางด้านปริมาณโดยเฉพาะตัวชี้วัดในเรื่องเศรษฐกิจจะต้องมีการกำหนดไว้เพื่อให้เป้าหมายในการผลักดันให้ไทยหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลาง (Middle Income Country) ได้ เช่น การปรับเพิ่มขึ้นของรายได้ต่อหัวของประชาชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง ทั้งนี้ หากเศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวต่อเนื่องปีละ 5% ไทยจะหลุดจากกับดักรายได้ ปานกลางได้ในปี 2569 หรืออีกประมาณ 10 ปี แต่หาก จีดีพีขยายตัวเฉลี่ยปีละ 3% ก็ต้องเลื่อนเวลาออกไปอีก อย่างน้อย 5 ปี หรือหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 14
การจัดทำร่างแผนพัฒนาฯ คาดว่าจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจะประกาศใช้วันที่ 1 ต.ค. 2559
ที่มา : ข่าวสด วันที่ 15 ก.ย. 2558