"สมหมาย" ฝาก "สมคิด" สานต่อเร่งผลักดันภาษีที่ดินฯ-ปฏิรูปโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ยัน ที่ผ่านมาทำงานตามหน้าที่ ยึดประโยชน์ชาติเป็นหลัก ลั่นไม่เคยเก็บภาษีเพิ่ม พร้อมทำหน้าที่ต่อ จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่...
วันที่ 19 ส.ค. 58 นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะถูกปรับออกจากตำแหน่งในการปรับ ครม. ครั้งนี้ เปิดเผยว่า ได้มีการหารือเกี่ยวกับงานของกระทรวงการคลังกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่จะเข้ามารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ โดยแจ้งให้ทราบว่า ยังมีงานสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการอีก 2-3 เรื่อง ได้แก่ การผลักดันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งขณะนี้ได้เสนอร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีไปพิจารณาแล้ว และอยู่ระหว่างรอเสนอเข้าที่ประชุม ครม.
นอกจากนั้น ยังมีการผลักดัน พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังบริหารหนี้ จากการขาดทุนในโครงการรับจำนำข้าว เงินชดเชยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และกองทุนประกันสังคม วงเงิน 7.3 แสนล้านบาท ซึ่งเตรียมเสนอ ครม. พิจารณาเช่นกัน
"เรื่องกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นเรื่องที่ผมทำไปตามหน้าที่และเน้นเรื่องประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก มากกว่าการหาเสียง เพราะรัฐบาลนี้ไม่จำเป็นต้องหาเสียง และตอนนี้ได้เสนอเรื่องไปที่รองนายกรัฐมนตรีแล้วเช่นกัน หลังจากนี้คงขึ้นอยู่กับ รมว.คลัง คนใหม่ว่าจะดำเนินการอย่างไร จะผลักดันต่อหรือจะทบทวนใหม่" นายสมหมาย กล่าว
ขณะที่การปฏิรูปโครงสร้างภาษี ก็อยากให้มีการสานต่อด้วย โดยเฉพาะการอุดช่องโหว่ภาษีและการบริหารการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการหารือร่วมกับอธิบดีกรมสรรพากร และได้กำชับให้มีการสานต่องานในจุดนี้ด้วย เนื่องจากเศรษฐกิจในขณะนี้ไม่เหมาะที่จะปรับเพิ่มภาษีใหม่ ดังนั้นต้องบริหารจัดการให้ผู้เสียภาษีมีความเท่าเทียมกัน ซึ่งจะทำให้ประชาชนยินดีที่จะเสียภาษีให้กับรัฐ
รวมทั้งการแก้ไขกฎหมายการให้เอกชนเช่าที่ราชพัสดุทำโครงการเชิงพาณิชย์ เพิ่มเป็น 50 ปี จากปัจจุบัน 30 ปี และการเช่าระหว่างรัฐต่อรัฐ เพิ่มเป็น 99 ปี ซึ่งได้เสนอให้กระทรวงมหาดไทยที่รับผิดชอบเรื่องนี้พิจารณาแล้ว โดยมองว่าหากเพิ่มระยะเวลาเช่าเป็น 50 ปี เอกชนจะสนใจมากขึ้น รัฐได้ค่าเช่ามากขึ้น ที่สำคัญมูลค่า
และขนาดของโครงการจะใหญ่มากขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ส่วนกระแสข่าวที่ถูกปรับออกจากครม. เนื่องจากมีการเก็บภาษีเพิ่ม นายสมหมาย ระบุว่า ที่ผ่านมาในฐานะรมว.คลัง ยังไม่เคยเก็บภาษีเพิ่มสักรายการเดียว มีแต่จะลดการจัดเก็บภาษี และพร้อมจะทำหน้าที่รมว.คลัง ต่อไป จนกว่าจะมีการโปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่
ที่มา : ไทยรัฐ วันที่ 19 ส.ค. 2558