ความสุขชาวนาทรุด ภัยแล้งรุนแรงกระทบ รายได้ไม่มี-หนี้สินเพิ่ม วอนรัฐเร่งดูแลเงินทุน ลดต้นทุนการผลิต พัฒนาระบบนํ้า ด้าน ธ.ก.ส.พร้อมปล่อยสินเชื่อปีบัญชี 58 วงเงิน 5.4 แสนล้านบาท หลังชาวนาหันปลูกพืชอื่นแทน
ธ.ก.ส.ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรจากทุกภาคทั่วประเทศ ระหว่างเดือนม.ค.-มี.ค. ของปี 58 พบว่า ความสุขมวลรวมของเกษตรกรไทยในภาพรวมอยู่ในระดับดี แต่เมื่อแยกเป็นเกษตรกรที่ปลูกข้าว พบว่าความสุขได้ปรับตัวลดลงอย่างมาก เนื่องจากได้รับผล กระทบจากปัญหาภัยแล้ง ที่ส่งผลต่อการประกอบอาชีพ เพราะไม่สามารถปลูกข้าวนาปรังได้ ทำให้เกษตรกรไม่มีรายได้และมีหนี้สิน
จากการกู้ยืมช่วงที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ เกษตรกรที่ปลูกข้าวต้องการให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือและดูแลปัญหาดังกล่าว ทั้งการสนับสนุนแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยตํ่า การลดต้นทุนด้านปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ทั้ง ค่าปุ๋ย ค่าเช่าที่นา ค่าใช้รถเกี่ยวข้าว รวมทั้งเมล็ดพันธุ์ และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยอยากให้รัฐบาลดูแลระบบนํ้าให้มีความครอบคลุมและเพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกรอย่างเร่งด่วน
อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.ได้เตรียมสินเชื่อใหม่ของปีบัญชี 58 เพื่อปล่อยกู้ให้กับเกษตรกรที่ต้องการเงินทุนอยู่ที่ประมาณ 541,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรมีเงินทุนสามารถประกอบอาชีพได้อย่างต่อเนื่อง โดยช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีเกษตรกรเข้ามาขอสินเชื่อดังกล่าวแล้วประมาณ 100,000 ล้านบาท แต่หากเกษตรกรมีความต้องการสินเชื่อเพิ่มเติม ธนาคารก็สามารถขยายวงเงินสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีสภาพคล่องอยู่เป็นจำนวนมาก
“วิกฤตภัยแล้งหนักในปีนี้ถือว่าหนักสุดในรอบ 30 ปี ทำให้เกษตรกรที่ปลูกข้าวได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะไม่มีนํ้าที่เพียงพอต่อการปลูกข้าวได้ ส่งผลต่อความต้องการเงินทุนเพิ่มขึ้น เนื่องจากเกษตรบางส่วนต้องเปลี่ยนการประกอบอาชีพ โดยหันมาเลือกปลูกพืชชนิดอื่นแทน ซึ่งส่วนใหญ่การขอสินเชื่อจะเป็นการรวมกลุ่มที่มีคนคํ้าตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพราะจะได้รับวงเงินของสินเชื่อรายละ 200,000 บาท ถือว่าเป็นสัดส่วนและค่าเฉลี่ยที่เหมาะสมของเกษตรกรที่ต้องการเงินทุนในการประกอบอาชีพ”
ที่มา : เดลินิวส์ วันที่ 6 ก.ค. 2558